วันนี้ (13 มีนาคม) จำนวนผู้เสียชีวิตจากการใช้อาวุธและความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในเมียนมายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สังคมเมียนมากลับเข้าสู่ภายใต้เงาของรัฐประหารโดยกองทัพอีกครั้ง ศพแล้วศพเล่าถูกดับลมหายใจจากเพื่อนร่วมชาติที่ยึดมั่นในคำสั่ง มากกว่าที่จะเลือกใช้วิธีการประนีประนอมและเคารพคุณค่าชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อยราว 80 รายในช่วง 1 เดือน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ร่างที่ไร้วิญญาณนำมาซึ่งน้ำตา และความเศร้าเสียใจของบรรดาสมาชิกในครอบครัว คนรัก ญาติ เพื่อนสนิท รวมถึงบรรดาผู้คนที่ร่วมอุดมการณ์สนับสนุนประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการทหาร และถึงแม้ว่ากองทัพจะยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรการปราบปรามกลุ่มคนเห็นต่าง และผลักดันการสร้างบรรยากาศของความกลัวให้แผ่ขยายปกคลุมไปทั่วประเทศ แต่ชาวเมียนมาจำนวนมากที่ศรัทธาในพลังเสียงของประชาชน และเห็นพ้องถึงประโยชน์ของการอยู่ในสังคมประชาธิปไตยจะยังคงเปล่งเสียง แสดงจุดยืนและรวมพลังกันให้ประชาคมโลกรับรู้ว่า เมียนมาเป็นประเทศของประชาชนทุกคน รัฐบาลที่จะก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ ต้องเป็นรัฐบาลพลเรือนที่มาจากเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่ก้าวขึ้นมาจากการรัฐประหารหรืออำนาจจากปลายกระบอกปืน
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ชมคลิป: “อย่าทำร้ายผู้ชุมนุม” ซิสเตอร์แอนน์ แม่ชีผู้คุกเข่าอ้อนวอนตำรวจเมียนมา อย่าใช้ความรุนแรง
- ชมคลิป: เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเข่นฆ่าประชาชน ชาวเมียนมาจึงต้องยืนหยัดเคียงข้างกัน ได้ที่
ภาพ: Stringer / Getty Images
ภาพ: Anton Raharjo / Anadolu Agency via Getty Images
ภาพ: Stringer / Anadolu Agency via Getty Images
ภาพ: Stringer / Getty Images
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2021/03/12/asia/myanmar-protester-angel-democracy-martyr-intl-hnk/index.html
- https://www.npr.org/2021/03/12/976589506/myanmar-protest-leader-wants-the-military-out-and-isnt-interested-in-negotiating