รัฐบาลทหารเมียนมาสั่งปลด จ่อ โม ทุน ทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติ (UN) ออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (27 กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมาย หลังจากที่เขาออกมาแสดงท่าทีต่อต้านกองทัพเมียนมาด้วยการกล่าวต่อชาติสมาชิก UN 193 ประเทศ ระหว่างประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 กุมภาพันธ์) โดยเรียกร้องให้ประชาคมโลกใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อยุติการรัฐประหาร และช่วยฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา พร้อมทั้งคืนอำนาจรัฐให้แก่ประชาชน
จ่อ โม ทุน ระบุว่า เขาเป็นตัวแทนของรัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของ ออง ซาน ซูจี ที่ถูกกองทัพยึดอำนาจ และหลังจากกล่าวเสร็จสิ้น เขายังชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ ก่อนจะได้รับเสียงปรบมือชื่นชมจาก ลินดา โทมัส กรีนฟีลด์ ทูตสหรัฐฯ ประจำ UN คนใหม่ ขณะที่สื่อและนักเคลื่อนไหวในเมียนมาชื่นชมการกระทำของเขาว่าเป็นการนำความหวังมาให้ชาวเมียนมานับล้าน
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ MRTV ของทางการเมียนมา ประกาศข่าวการปลด จ่อ โม ทุน ออกจากตำแหน่ง โดยระบุเหตุผลว่า เขาได้ “ทรยศต่อประเทศและกล่าวถ้อยแถลงแทนองค์กรไม่เป็นทางการ ซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ” รวมถึง “ใช้อำนาจและความรับผิดชอบในฐานะทูตในทางที่ผิด”
การปลดทูตประจำสหประชาชาติมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ทางการเมียนมาเพิ่มระดับมาตรการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงทั่วประเทศรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยสถานีโทรทัศน์ MRTV รายงานว่า มีผู้ประท้วงถูกตำรวจจับกุมตัวไปมากกว่า 470 คน แต่อ้างว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมายด้วยการปิดถนน และตำรวจได้ประกาศเตือนก่อนสลายการชุมนุม ซึ่งที่นครย่างกุ้งมีรายงานว่า ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ขณะที่พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ประชาชนถูกตำรวจทุบตีและจับกุม และมีการยิงปืนขึ้นฟ้าด้วย
ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวและสื่อท้องถิ่นสำนักอื่นๆ อาทิ 7Day News รายงานว่า มีผู้ประท้วงถูกยิงบาดเจ็บอย่างน้อย 1 ราย และมีนักข่าวหลายคนถูกจับกุมตัวไปด้วย
“ประชาชนกำลังประท้วงอย่างสันติ แต่พวกเขากลับข่มขู่เราด้วยอาวุธ” หนึ่งในนักเคลื่อนไหวเปิดเผยต่อสื่อ พร้อมยืนยันว่า การออกมาประท้วงนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อยุติการยึดอำนาจของกองทัพที่เกิดขึ้นมาหลายยุคหลายสมัย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเคลื่อนไหวยืนยันว่า จะไม่หยุดการชุมนุม และประกาศเรียกร้องให้ชาวเมียนมาออกมาร่วมชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหารอีกในวันนี้ (28 กุมภาพันธ์)
ภาพ: Deutsche Presse-Agentur GmbH via Reuters
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
