วานนี้ (17 สิงหาคม) โฆษกกองทัพเมียนมาเปิดเผยว่า เมียนมาเตรียมนำเข้าน้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงจากรัสเซีย เพื่อบรรเทาปัญหาด้านซัพพลายพลังงาน และสกัดราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเมียนมาถือเป็นชาติกำลังพัฒนาแห่งล่าสุดที่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซีย ท่ามกลางวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลก
นอกจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศแล้ว อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่เมียนมากำลังเผชิญคือราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น และปัญหาพลังงานขาดแคลนจนทำให้เกิดไฟดับในหลายพื้นที่ โดยราคาน้ำมันเบนซินในเมียนมาทะยานขึ้นราว 350% นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ส่งผลให้รัฐบาลทหารต้องหันไปพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อมาใช้สำหรับโรงงานไฟฟ้าในประเทศ ประจวบเหมาะกับที่ทางฝั่งของรัสเซียเองก็กำลังพยายามหาลูกค้ารายใหม่ หลังจากที่ประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ประกาศลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียลง
ซอ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา ระบุว่า “เราได้รับอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งมีคุณภาพสูงและต้นทุนต่ำ” โดยรัสเซียจะเริ่มจัดส่งน้ำมันมาถึงเมียนมาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป หลังจากที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐประหารเมียนมา ได้เปิดการหารือเกี่ยวกับประเด็นน้ำมันและก๊าซระหว่างทริปเดินทางเยือนรัสเซียเมื่อเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่า เมียนมากำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาที่จะทำโครงการสำรวจน้ำมันในประเทศร่วมกับรัสเซียและจีน โดยปัจจุบันเมียนมาได้นำเข้าเชื้อเพลิงผ่านทางสิงคโปร์
ทั้งนี้รัฐบาลทหารเมียนมายังคงสานสัมพันธ์อันดีกับรัสเซีย ท่ามกลางช่วงเวลาที่ทั้งสองชาติเผชิญกับแรงกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก จากการที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเมื่อปีที่แล้ว และจากเหตุที่รัสเซียส่งทหารเข้าบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในด้านการทหาร โดยรัสเซียได้รับหน้าที่จัดหาอาวุธและการฝึกอบรมทางทหารให้กับกองทัพเมียนมาด้วย
ภาพ: Myat Thu Kyaw/NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: