เมียนมา น้ำท่วม หนัก หลังไต้ฝุ่นยางิถล่ม ประชาชนนับแสนต้องอพยพ

เมียนมาเผชิญเหตุน้ำท่วมใหญ่จากอิทธิพลของไต้ฝุ่นยางิ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 230,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก

ไต้ฝุ่นยางิ ถือเป็นพายุรุนแรงที่สุดที่เข้าพัดถล่มเอเชียในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วันหลายชาติได้รับผลกระทบหนัก รวมถึงจีน ฟิลิปปินส์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม ซึ่งมียอดผู้เสียชีวิตทะลุ 250 คน บาดเจ็บอีกกว่า 820 คน

สื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อตรวจสอบการกู้ภัยและการบรรเทาทุกข์ โดยรัฐบาลทหารเมียนมาร้องขอความช่วยเหลือไปยังนานาชาติเพื่อช่วยบรรเทาและฟื้นฟูเหตุอุทกภัย พร้อมกันนี้ยังได้เร่งจัดตั้งแคมป์บรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ไร้ที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้เสียชีวิตในเมียนมานั้นไม่แน่ชัด โดยข้อมูลจากทหารเมียนมาระบุว่า เหตุน้ำท่วมใหญ่คร่าชีวิตประชาชนแล้วอย่างน้อย 33 คน ส่วนสถานีวิทยุ Radio Free Asia ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริการายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 160 คนจากน้ำท่วมและดินถล่ม

สำนักข่าว BBC Burmese สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองตองอูวันนี้ (14 กันยายน) ซึ่งเล่าเหตุการณ์ว่ายังมีประชาชนกว่า 300 ชีวิตที่ติดอยู่ตามที่พักอาศัยบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสะโตง เพราะเรือกู้ภัยมีจำนวนไม่เพียงพอ

ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเมียนมาย่ำแย่ลง จากเดิมที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองที่ทำให้ประชาชนหลายพันคนเสียชีวิต และมีผู้ที่ต้องอพยพย้ายถิ่นอีกกว่า 2.6 ล้านคน ขณะข้อมูลจากสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปัจจุบันมีประชากรราว 18.6 ล้านคนในเมียนมาที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ผลกระทบจากโลกรวนทำให้ไต้ฝุ่นและเฮอริเคนในปัจจุบันทวีความรุนแรงมากขึ้นและเกิดถี่ขึ้นกว่าในอดีต เพราะยิ่งอากาศอุ่นขึ้นเท่าไร ความรุนแรงและปริมาณน้ำฝนจากเฮอริเคนหรือไต้ฝุ่นก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย เนื่องจากอากาศที่อุ่นขึ้นจะทำให้น้ำระเหยมากขึ้นและอุ้มความชื้นไว้สูง ทำให้ปริมาณน้ำฝนจากเฮอริเคนหรือไต้ฝุ่นมากขึ้นนั่นเอง

ภาพ: Sai Aung MAIN / AFP

อ้างอิง: