วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปตรวจราชการและประชุมติดตามการปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ภายหลังตัดไฟ รวมถึงตรวจพื้นที่บริเวณชายแดนที่มีการตัดไฟฟ้าเมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์) ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถสรุปได้ แต่จากการสังเกตชายแดนไทยไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งต้องประเมินว่ามีสิ่งที่กระทบกับชายแดนมากน้อยแค่ไหน รวมถึงเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ยืนยันว่าเราได้ประเมินแล้วถึงตัดไฟ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ กระทบต่อคนทั้งประเทศ แหล่งกำเนิดอยู่ใกล้กับเรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น
“วันนี้เราร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา มีคำถาม มีอะไรก็ได้ แต่อย่าพยายามทำให้เป็นประเด็น บางคนบอกว่ายังใช้ไฟได้อยู่เลย”
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า วันแรกที่ตัดไปอาจจะไม่เห็นอะไรชัดเจน แต่ที่ชเวโก๊กโก่การใช้ไฟฟ้าก็ลดลงเหลือ 40% ซึ่งจะประเมินตลอด ที่ไปดูวันนี้เพื่อจะได้เห็นจริง และหลังจากนี้ต้องดูว่าคดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่ กระบวนการมีปัญหามากหรือไม่ คนออกมามากน้อยแค่ไหน
ส่วนการที่ฝั่งเมียนมาไปซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว แทนนั้น ภูมิธรรมระบุว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขาเหมือนกับเป็นอธิปไตยในประเทศเขา เขาอยากจะซื้อก็ว่ากันไป เราไม่มีสิทธิ์ห้ามซื้อ สปป.ลาว แต่เราต้องจัดการในประเทศ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันอีก
“เพราะ สปป.ลาว ก็คุยกับผมมาครั้งหนึ่งว่าต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ตอนนี้เขาอุดตรงนั้นตรงนี้ เขาก็พร้อมซีลชายแดนด้านเขาเหมือนกันเพื่อแก้ปัญหา แต่เรายังไม่คุยไปถึงว่าวันนี้เราต้องทำอะไร การที่เขาต้องวิ่งไปหาฝ่ายอื่นแสดงว่าเขามีปัญหา” ภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรมระบุอีกว่า ส่วนกระบวนการลักลอบตอนนี้อาจเป็นไปได้ โดยสั่งการให้เข้มงวดมากขึ้น หากมีช่องทางไหนที่มีปัญหาก็จะอุดให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเมื่อเช้านี้มีข่าวว่าอินเทอร์เน็ตตัดไม่ได้ ต้องไปดูว่าจริงหรือไม่ ส่วนการประกาศกรอบเวลาในการดำเนินการสามารถทำได้ แต่เวลานี้เราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด ทำไปแล้วก็ประเมินไปด้วย
“ผมตัดไฟครั้งนี้ก็รู้อยู่ว่าเศรษฐกิจกระทบบ้าง แต่ก็ต้องเลือกเอา ตอนที่เราจะทำเราไม่ใช้อารมณ์ตัด เราใช้ว่ามีผลกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ไทย-เมียนมา ไทย-จีน เราคำนึงถึงความสัมพันธ์ด้านมนุษยธรรมอย่าง กฟภ. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) บอกว่าหายไป 600 ล้านบาท ก็แค่ 0.1% อยากให้มองให้รอบด้านว่าเราพยายามแก้ไขปัญหา ต้องให้ความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำให้ยากลำบากมากขึ้น” ภูมิธรรมกล่าว