วันนี้ (11 มีนาคม) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าจากเหตุการณ์การชุมนุมของชาวเมียนมาในประเทศไทยเพื่อเรียกร้องให้คืนความเป็นประชาธิปไตยที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ซึ่งมีการนัดรวมตัวกันเป็นประจำทุกสัปดาห์ สร้างความกังวลใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะก่อให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 และการระบาดตามมาได้ เนื่องจากพบว่าผู้ร่วมชุมนุมเป็นชาวเมียนมาที่เดินทางมาจากหลายพื้นที่ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งมาตรการสำคัญที่ช่วยให้การควบคุมโรคได้ผลดีคือการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคเป็นวงกว้าง
“จากการติดตามสถานการณ์การชุมนุม พบว่ามีการรวมตัวของผู้คนเป็นจำนวนมาก มีการตะโกน พูดคุยกันใกล้ชิดโดยไม่ได้ป้องกันตัวเองที่เพียงพอ ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า อีกทั้งการที่แรงงานชาวเมียนมาออกนอกพื้นที่ที่ยังมีการระบาดของโรคร่วมชุมนุม อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ ต้องขอความร่วมมือนายจ้างและผู้ประกอบการทำความเข้าใจกับแรงงานของตนว่าการชุมนุมและการออกนอกพื้นที่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญคือความเสี่ยงเกิดโรคระบาดในประเทศ” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่าแม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดดำเนินการควบคุมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องจนสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหลายพื้นที่ ล่าสุดยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มก้อนที่จังหวัดปราจีนบุรีและนครนายก สาเหตุจากการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง และการหมั่นล้างมือ
ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทุกคนร่วมมือกันเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเอง การ์ดอย่าตก แม้จะเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนในประเทศไทยแล้วก็ตาม
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
