My Name ซีรีส์แอ็กชันฟิล์มนัวร์ ออริจินัลคอนเทนต์จาก Netflix ออกอากาศไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา และต้องบอกเลยว่า 8 อีพีของซีรีส์เรื่องนี้ แค้น เลือด เดือดที่สุด สายฟิล์มนัวร์เน้นประเด็นดราม่าขยี้มิติตัวละครไม่ควรพลาด และที่สำคัญคือคงเอกลักษณ์ซีรีส์เกาหลีที่เต็มไปด้วยเรื่องดาร์กๆ ภายใต้เปลือกของสังคมที่สวยหรู

ส่วนใครที่ดูแล้วคงต้องอวยยศให้กับ ฮันโซฮี ผู้รับบทนำของเรื่องนี้ ที่เธอไม่ได้มาเล่นๆ แต่เอาจริงถึงกับทุ่มซ้อมฉากแอ็กชันจนไม่ห่วงสวย ไม่เหลือเค้าของสาวหวานที่เป็นภาพจำอย่างที่ผ่านมา

ฮันโซฮี นักแสดงตัวจริงที่ทุ่มหมดหน้าตัก ให้กับบท ยุนจีอู

My Name น่าจะเป็นซีรีส์เกาหลีสายแอ็กชันหนักๆ เรื่องแรกๆ ที่ตัวละครนำเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการหานักแสดงสักคนมารับบท ‘ยุนจีอู’ ที่เรียกไว้ว่าเป็นเดอะแบกของซีรีส์ และยังต้องทุ่มสุดตัวให้กับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง 

ผู้กำกับคิมจินมิน ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “หน้าตาและรูปลักษณ์ของนักแสดง จริงๆ แล้วเป็นข้อจำกัดในการรับบท แต่ผมคิดว่าในข้อจำกัดมักมีความเป็นไปได้เสมอ นักแสดงที่ทำลายข้อจำกัดเหล่านั้นได้ถึงจะพบความเป็นไปได้ 

“ตอนที่ผมเจอฮันโซฮี ผมถามแค่สองคำถามเองครับ ข้อแรก – อยากเล่นบทนี้หรือเปล่า และข้อสอง – เธอจะยอมฝึกซ้อมอย่างหนักไหม ซึ่งฮันโซฮีตอบออกมาทันทีว่าอยากรับบทนี้ และขอให้ผมลองเชื่อใจเธอ ซึ่งคำสัญญาและความรับผิดชอบในการฝึกซ้อมทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ”

My Name จึงเป็นการทรานส์ฟอร์มนักแสดงสาวสวยบอบบางอย่างฮันโซฮี ให้กลายมาเป็นแอ็กชันวูแมน ไม่ต่างจากตัวละครยุนจีอูในเรื่องที่ทิ้งทุกอย่างเพื่อการล้างแค้น สำหรับฮันโซฮี เธอต้องออกกำลังกายอย่างหนักจนกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 10 กิโลกรัม ด้วยความรู้สึกว่าในบทนี้เธอจะเป็นหญิงสาวอ้อนแอ้นบอบบางไม่ได้ นอกจากนี้ฮันโซฮียังต้องฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ก่อนหน้านักแสดงคนอื่นในเรื่อง และฝึกซ้อมร่วมเพื่อให้ซีนแอ็กชันทั้งหมดสมบูรณ์แบบ เล่นเอง เจ็บเอง โดยไม่ใช้สแตนด์อิน

สำหรับ ฮันโซฮี โด่งดังเป็นพลุแตกจากการรับบท ยอดาคยอง หญิงสาวที่แย่งสามีคนอื่นใน The World of Married Couple (2020) ก่อนที่จะไปรับบท ยูนาบี นักศึกษาศิลปะในซีรีส์ Nevertheless (2021) ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าบทยุนจีอู ในซีรีส์ My Name คือบทพิสูจน์ทางการแสดงที่ดีที่สุดของเธอแล้ว 

My Name กับปมบาดแผลในใจของยุนจีอู 

วันเกิดอายุ 17 ปี ยุนจีอู ที่ทุกข์ร้อนกับการหายตัวของพ่อไปหลายเดือน ขณะที่ข่าวดังไปทั่วเมืองว่าพ่อเธอคืออาชญากรร้ายในองค์กรยาเสพติด และเหตุการณ์ที่พ่อถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ก็กลายเป็นบาดแผลกรีดลึกในใจ จนทำให้ยุนจีอูที่ยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ถึงกับหัวใจสลาย ด้วยความรู้สึกผิดที่เธอโทษว่าตัวเองเป็นต้นเหตุการตายของพ่อ

บาดแผลและความผิดในใจ บั่นทอนทิ่มแทงเธอยาวนาน เพราะแม้จะเติบโตขึ้นมาก็ยังคงเต็มไปด้วยไฟแค้น อย่างเดียวที่เธอคิดว่ามันจะบรรเทาความเจ็บปวดในใจได้คือการแก้แค้น จนสุดท้ายก็ไม่รู้แน่ชัดว่า ถึงแก้แค้นไปแล้ว เธอจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ฝันร้ายหรือไม่ หรือกระทั่งว่าการแก้แค้นคืออะไร สิ่งที่เธอทำถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ซีรีส์ท้าทายทางเลือก และการตัดสินใจของตัวละครได้อย่างสุดจะคาดเดา

ประเด็นความแค้นที่ตัวละครยุนจีอูแบกเอาไว้นั้น ในตอนแรกอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก แต่การที่ซีรีส์ให้น้ำหนักกับปูมหลังตัวละคร ก็ทำให้เชื่อได้ว่า เด็กสาวในวัย 17 ปีที่ขาดไร้ครอบครัว และพบเหตุการณ์สะเทือนใจที่สุดในชีวิตในวันเกิดตัวเอง การรับว่าเป็นความผิดของตัวเอง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าตัวละครไร้ซึ่งทางเลือก จนยอมละทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อล้างแค้น หรืออีกนัยหนึ่งเพื่อไถ่บาป ที่เธอเป็นคนทำให้พ่อต้องตาย 

พัคฮีซุน การแสดงที่ยืนอยู่บนหน้าผาระหว่างรักหรือหลอก

ตรรกะในชีวิตชเวมูจิน ที่ปรากฏในซีรีส์ My Name น่าสนใจมาก และทำให้ช่วงท้ายของซีรีส์ออกไปในตอนจบที่ดี กับจิตใจของมนุษย์ที่แม้จะเป็นหัวหน้าตำรวจ หรือหัวหน้าองค์กรค้ายาเสพติด ลึกๆ แล้วต่างก็มีหัวจิตหัวใจไม่ต่างกัน

ตลอด 8 อีพีเราได้เห็นการสับขาหลอกของชเวมูจินที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร ในใจของเขานั้น รัก หรือ หลอกใช้ ลูกสาวเพื่อนสนิทกันแน่ ซึ่งคะแนนพิเศษที่ทำให้ซีรีส์สมจริง ก็เพราะนักแสดงในตำนานที่ชื่อว่า พัคฮีซุน 

พัคฮีซุน ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงฝีมือดีในวงการ มีงานภาพยนตร์มากกว่าซีรีส์ และแม้บทนี้จะไม่ได้ยากเกินฝีมือเขา แต่การที่ได้พัคฮีซุนมาแสดง ก็ทำให้เห็นว่าประสบการณ์แสดงนั้นสำคัญมากในการสร้างมิติให้ตัวละครเหนือชั้นไปกว่าการเป็นซีรีส์แอ็กชันเลือดสาดตามปกติ 

นอกจากพัคฮีซุนที่รับบท ชเวมูจิน หัวหน้าองค์กรค้ายาเสพติดระดับประเทศ My Name ยังมีนักแสดงนำฝีมือดีอย่าง อันโบฮยอน ที่รับบทตำรวจแผนกคดียาเสพติด เป็นการพลิกบทกลับมาอยู่สายขาวที่ทำเอาลืมไปเลยว่าเขาเคยรับบทร้ายสุดๆ จาก Itaewon Class เช่นเดียวกับ อีฮักจู ที่รับบทสมทบมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะบทร้ายๆ ในซีรีส์ The World of Married Couple ที่เขาเคยร่วมงานกับฮันโซฮีมาแล้ว และคิมซังโฮ นักแสดงสมทบคุ้นหน้าคุ้นตา จากบทองครักษ์ข้างกาย องค์ชายอีชาง ใน Kingdom ก็จะมาในบทที่เราคาดเดาไม่ได้เลยว่าอยู่ในฝั่งความดีหรือชั่ว

ประเด็นของความไว้ใจ-ไส้ศึก ล้างแค้นหรือนักฆ่า ผู้ล่าหรือเหยื่อ

My Name มีทั้งหมด 8 อีพี อีพีละประมาณ 50 นาที ซึ่งการที่เรื่องราวทวิสต์ปมซับซ้อน สับขาหลอกคนดูไปมา ก็เป็นไปได้ที่ตอนจบจะหาทางลงลำบาก แต่กับซีรีส์เรื่องนี้แล้ว มีตอนจบที่ดี และทวิสต์ปมสะท้อนสังคมจริงทุกวันนี้ได้อีกด้วย

บนความพลิกไปมาของตัวละครและเรื่องราวที่ค่อยๆ ผ่านพบ ก็ทำให้ความหมายสำคัญในซีรีส์พลิกผันตามไปด้วย จากการแก้แค้นที่อาจจะหมายถึงความยุติธรรม การเป็นไส้ศึก ที่อาจหมายถึงการสร้างความไว้วางใจแบบยอมตายแทนกันได้​ ความพยายามเป็นนักฆ่าของอีจู ที่จริงๆ แล้วเธอจะเป็นได้แบบนั้น หรือเป็นเพียงผู้ล่าในบางครั้ง และตกเป็นเหยื่อในบางคราว

ซีรีส์ My Name อาจจะทำให้เรามองเห็นสังคมที่เรากำลังมีชีวิตกันอยู่ ที่เป็นห่วงโซ่ขนาดใหญ่ มีทั้งนักล่า มีทั้งเหยื่อ ที่ถ้าเราไม่ออกฆ่าเสียเอง ก็เท่ากับการรอวันถูกฆ่าในที่สุด และชีวิตของชเวมูจิน ยุนอีจู รวมถึงตัวละครรายล้อมก็เช่นกัน

มีคำถามหนึ่งที่อีจู ถามชเวมูจินขึ้นว่า ถ้าพ่อเธอไม่ตาย เขาคิดว่าเธอจะได้ไปอยู่บ้านริมทะเลกับพ่ออย่างที่ฝันไว้ไหม คำถามนี้จะว่าไปมันก็คงเหมือนกับความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง แต่เราเลือกเกาะยึดความฝันนั้นเอาไว้ เพราะไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้แล้วให้ยึดเหนี่ยว

อ่านต่อ My Name ทำความรู้จักตัวละครและทีมนักแสดง เตรียมพร้อมก่อนดู ว่าที่ซีรีส์ฮิตจาก Netflix https://thestandard.co/my-name-k-series-2/