วันนี้ (11 มีนาคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ทางกระทรวงสาธารณสุข โดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้นโยบายการใช้หน้ากากป้องกันโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับความเสี่ยง หน้ากากผ้าจึงเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่ไม่ป่วยและมีความเสี่ยงต่ำกว่าบุคลากรทางการแพทย์ ที่สำคัญคือสามารถทำเองได้ ทำให้หลายหน่วยงานในภาครัฐสนับสนุนให้ประชาชนตัดเย็บหน้ากากผ้าขึ้นใช้เอง
ดังนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมอนามัย ได้รับมอบหมายจาก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ทำการศึกษาชนิดของผ้าต่างๆ ที่น่าจะมีความเหมาะสมในการนำมาใช้คือ
1.สามารถกันอนุภาคขนาดเล็ก
2.ป้องกันการซึมผ่านของละอองน้ำ
3.สามารถนำไปซักได้หลายครั้งรวมถึงหาได้ง่ายทั่วไป โดยทำการศึกษาเปรียบเทียบผ้าหลายรูปแบบ เช่น ผ้าฝ้ายดิบ ผ้าฝ้ายมัสลิน ผ้าสาลู ผ้านาโน และผ้ายืด
โดยผลการทดสอบพบว่ามีผ้า 3 ชนิดคือ ผ้าฝ้ายดิบ ผ้าฝ้ายมัสลิน และผ้านาโน เมื่อนำผ้ามาประกอบกัน 2 ชั้น และส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์เส้นใยผ้าสามารถกันอนุภาคได้ใกล้เคียงหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และได้ศึกษาจำนวนครั้งของการซักล้างในผ้า 3 ชนิดเพื่อทดสอบการเป็นขุยพบว่า ผ้าฝ้ายดิบและผ้าฝ้ายมัสลิน สามารถซักได้มากกว่า 100 ครั้ง โดยคุณภาพของเนื้อผ้าไม่เสื่อม และทดสอบประสิทธิภาพการต้านการซึมผ่านของละอองน้ำพบว่า ผ้าฝ้ายมัสลินและผ้าสาลูสามารถต้านการซึมผ่านได้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม จากผลการทดสอบสรุปว่าผ้าฝ้ายมัสลิน มีความเหมาะสม ในการนำมาใช้ทำหน้ากากผ้า 2 ชั้นมากกว่าผ้าชนิดอื่น เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีหลายด้านคือ สามารถกันละอองน้ำและเส้นใยผ้าสามารถกันอนุภาคได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นและที่สำคัญสามารถนำมาใช้งานได้หลายครั้ง
ทั้งนี้เพื่อความสะอาดของหน้ากากผ้า ทางกระทรวงฯ แนะนำให้ซักล้างและตากแห้งทุกวัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยประชาชนต้องป้องกันตัวเองด้วยการไม่เอามือไปสัมผัส หน้ากาก ขณะสวมใส่ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคมาติด ซึ่งอาจจะเข้าสู่จมูกหรือปากได้ และควรล้างมือบ่อยๆ เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า