เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา กับ Museum of the Future พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคตแห่งใหม่ล่าสุด ที่จำลองประเทศดูไบในปี 2071 หรือระยะเวลา 1 ศตวรรษหลังจากจัดตั้งประเทศใหม่ในชื่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) หลังจากใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานถึง 6 ปี
THE STANDARD POP อยากชวนคุณไปทำความรู้จักและชมภาพของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กัน
Museum of the Future ตั้งอยู่บนถนน Sheikh Zayed หรือถนนที่รู้จักกันดีในนามของถนนเส้นที่ยาวที่สุดใน UAE ถือเป็นโลเคชันที่เหมาะเจาะต่อการสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต’ (Living Museum) หรือสถานที่ที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบในการสร้างนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมของเหล่าคนรุ่นใหม่ในประเทศนี้อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความสูง 77 เมตรจากพื้นดิน โดยได้สถาปนิก Shaun Killa จากสตูดิโอ Killa Design มาเป็นผู้ออกแบบ โดย Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองของดูไบ ถึงกับกล่าวว่า Museum of the Future นั้น ‘เป็นอาคารที่สวยที่สุดในโลก’ เลยทีเดียว
คอนเซปต์การออกแบบ Museum of the Future ของ Shaun Killa แฝงไปด้วยสัญลักษณ์และความหมายลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวอาคารให้มีรูปทรงกลม (Circular Design) แทนสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ เนินดินสีเขียวที่หมายถึงโลก รวมไปถึงช่องว่างตรงกลางที่ถูกออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์สื่อให้เห็นถึงอนาคตที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้
เมื่อพูดถึงสถาปัตยกรรมภายนอก หรือด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ (Facade) เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าตัวอาคารที่งดงามกำลัง ‘สื่อสารเป็นภาษาอาราบิก’ ผ่านการประดิษฐ์ตัวอักษรภาษาอาหรับประดับโครงสร้างจากแผงจำนวนกว่า 1,024 แผ่น ซึ่งข้อความเหล่านี้ประกอบไปด้วย 3 คำพูดของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum มีเนื้อความว่า
“เราอาจอยู่ได้ไม่ถึงร้อยปี แต่ผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ของเราสามารถทิ้งมรดกไว้ได้นานหลังจากที่เราไม่อยู่”
“อนาคตเป็นของผู้ที่สามารถจินตนาการได้ ออกแบบมัน และดำเนินการตามนั้น”
และ “อนาคตไม่รอช้า อนาคตสามารถออกแบบและสร้างได้ในวันนี้”
แสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ของอาหรับในการฟื้นคืนความเป็นเลิศ ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การวิจัย สู่การฟื้นฟูอารยธรรมอาหรับและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
ภายในยังออกแบบกิจกรรมในแต่ละชั้นให้มีลักษณะเหมือนฉากภาพยนตร์ ตามคอนเซปต์ ‘a future that you can inhabit, explore and interact with.’ ซึ่งในแต่ละชั้นจะมีเนื้อหาและหัวข้อที่ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ให้ผู้เข้าชมได้สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศของนิทรรศการและกิจกรรม พร้อมทั้งสามารถสำรวจ โต้ตอบ หรือถามคำถามผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหัวข้ออย่างอนาคตของการเดินทางและการใช้ชีวิตบนอวกาศ (The Future of Space Travel and Living), การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และนิเวศวิทยา (Climate Change and Ecology), สุขภาพ (Health) รวมไปถึงความสุของค์รวมและจิตวิญญาณ (Wellness and Spirituality)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://museumofthefuture.ae/en
ภาพ: afp, shutterstock, @atelierbrueckner