×

ยกระดับจัดการบัญชีม้า! ‘แบงก์ชาติ’ เผย เหยื่อจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีม้าดำ-เทาเข้มได้แล้ว ตั้งแต่ 31 มกราคมนี้

30.01.2025
  • LOADING...

‘แบงก์ชาติ’ ยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้า ตั้งแต่พรุ่งนี้ (31 มกราคม) ลูกค้าธนาคารทุกแห่งจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีม้าดำและเทาเข้มได้แล้ว และภายในเดือนมีนาคม ธนาคารต้องส่ง SMS ให้ผู้โอนรู้ตัวว่าอาจกำลังโอนเงินไปยัง บัญชีม้า จ่อร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.ล.ต. สกัดโอนเงินไปคริปโต หลังพบว่า 75% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น ไปจบที่บัญชีคริปโตเคอร์เรนซี

 

วันนี้ (30 มกราคม) รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2568 เป็นต้นไป เหยื่อหรือลูกค้าธนาคารทุกแห่งจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีม้าดำและม้าเทาเข้มได้แล้ว โดยทุกธนาคารต้องระงับการโอนเงินออกจากบัญชีม้า และปฏิเสธการเปิดบัญชีใหม่ ครอบคลุมไปถึงกรณีของบัญชีที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเป็นบัญชีม้า (แต่ยังไม่ถูกแจ้งว่าทำให้เกิดความเสียหาย) เพิ่มเติมด้วย รวมทั้งต้องกันเงินไม่ให้เข้าไปยังบัญชีของม้าทุกประเภทที่ระบุได้ชัดเจนว่ามีความเสี่ยงสูง

 

“ในมาตรการปัจจุบัน เมื่อบัญชีใดได้รับการแปะว่าเป็นบัญชีม้าดำและม้าเทา ก็จะไม่สามารถนำเงินออกจากบัญชีได้ แต่ถามว่ามาตรการนี้ตอบโจทย์เหยื่อหรือไม่ ก็คิดว่าไม่ได้ตอบโจทย์ เนื่องจากเมื่อเงินของเหยื่อออกไปแล้ว แล้วก็ไปค้างอยู่ในบัญชีม้านั้น แต่ในวันพรุ่งนี้ (31 มกราคม) ทุกธนาคารตกลงกันแล้วว่า หากเป็นบัญชีม้าดำและม้าเทาเข้ม จะไม่มีการให้เงินเข้าบัญชีเหล่านี้แล้ว ถ้าลูกค้าพยายามจะโอน ก็จะโอนแล้วเด้ง โอนไม่ได้ ก่อนหน้านี้มีหลายแบงก์ที่พยายามทดลองทำท่านี้ เช่น โอนไม่ผ่าน หรือโอนแล้วถูกพักไว้ที่หนึ่งก่อน ค่อยโอนเงินคืนให้ลูกค้าภายใน 1-2 วัน” รุ่งกล่าว

 

ทั้งนี้ บัญชีม้าดำคือบัญชีที่อยู่ในฐานข้อมูล ปปง. แล้ว ส่วนบัญชีม้าเทาเข้ม คือบัญชีที่มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว

 

นอกจากนี้ ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ยังเปิดเผยอีกว่า ภายในเดือนมีนาคม ธนาคารต้องแจ้งเตือนหรือส่งข้อความ SMS ให้ผู้โอนรู้ตัวว่าอาจกำลังโอนเงินไปยัง บัญชีม้า เพื่อป้องกันความเสียหายตั้งแต่ต้น และผู้ถูกหลอกไม่ต้องเสียเวลาในการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อรับเงินคืน

 

 

สรุป ‘มาตรการ ก-ข-ค’ มาตรการเร่งด่วนที่แบงก์ชาติเร่งทำเพิ่ม

 

  • ก: การกวาดล้างบัญชีม้าให้ได้มากขึ้น เช่น ทำให้เงื่อนไขเข้มข้นขึ้น ยกระดับสีม้าให้สะท้อนความเสี่ยงมากขึ้น
  • ข: การจัดการบัญชีม้าระดับบุคคลที่ ‘เข้มข้น’ ขึ้น ผ่านการกันเงินเข้าและออก และกันการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับประชาชน
  • ค: การขยายการจัดการในวงที่กว้างขึ้น ‘ครอบคลุม’ ขึ้นโดยกำหนดให้ธนาคารต้องแลกเปลี่ยนรายชื่อบุคคลที่ธนาคารตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยระหว่างกันเพิ่มเติม แม้ยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย จากเดิมที่แลกเปลี่ยนกันเฉพาะรายชื่อบุคคลที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามฐานข้อมูลสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และรายชื่อบุคคลที่ถูกแจ้งความหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินทุจริตเท่านั้น เพื่อให้ธนาคารดำเนินการป้องกันภัยทุจริตได้ครอบคลุม รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น

 

 

จ่อร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ก.ล.ต. สกัดโอนเงินไปคริปโต

 

นอกจากนี้ ธปท. ยังกำหนดให้ธนาคารต้องพัฒนาการจัดการบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงจากรูปแบบการหลอกลวงและพฤติกรรมของมิจฉาชีพในอนาคต เช่น การปรับปรุงเงื่อนไข การตรวจจับบัญชีม้าให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ การพัฒนาระบบการตรวจจับบัญชีม้าและพฤติกรรมผิดปกติของลูกค้า เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสมกับพฤติกรรมรายบุคคลอย่างรวดเร็ว ตลอดจนร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้กำกับดูแลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ในการปิดช่องโหว่เส้นทางเงินที่สำคัญของมิจฉาชีพ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา พบว่า 75% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น ไปจบที่บัญชีคริปโตเคอร์เรนซี

 

ธปท. ตอบ แบงก์-ค่ายมือถือต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่?

 

ดารณีกล่าวอีกว่า ธปท. เห็นด้วยว่าการแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงินให้ได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาคธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Telco) หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ในการรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองตามขอบเขตมาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลกำหนดไว้อย่างชัดเจน หากฝ่ายไหนละเลยการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบ และชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น (Shared Responsibility)

 

“โดยหลักการแบงก์ชาติเห็นด้วย ที่แบงก์และทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบ ในกรณีถ้าแบงก์ทำหน้าที่ได้ไม่ดี ตัวอย่างกรณีสิงคโปร์ที่ออกหลักเกณฑ์มาปีที่แล้ว ที่ระบุว่าธนาคารต้องร่วมรับผิดชอบเฉพาะธุรกรรมที่ลูกค้าไม่รู้ตัวหรือไม่ยินยอม (Unauthorized Fraud) เช่น โดน Phishing หรือโดนลิงก์ควบคุม รวมไปถึงบริษัทโทรคมนาคม ถ้าหากไม่สามารถบล็อก SMS ที่มี Malicious URL ได้ ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ” ดารณีกล่าว

 

โดย ธปท. จะประกาศกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบที่ธนาคารพึงปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับผู้กำกับดูแลด้านอื่นๆ ต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising