หลังจากประกาศเลื่อนฉายมาหลายรอบเนื่องด้วยพิษโควิด-19 ที่ในอเมริกายังคงระบาดไม่หยุด ดูเหมือนว่าตอนนี้ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่างดิสนีย์จะหาทางออกให้กับ Mulan หนึ่งในภาพยนตร์ Live Action ฟอร์มยักษ์ที่หลายคนรอคอยได้แล้ว ซึ่งนั่นก็คือการปล่อยเช่าภาพยนตร์ในรูปแบบ Video on Demand บนบริการสตรีมมิง Disney+ ที่ปัจจุบันมีผู้สมัครเป็นสมาชิกหรือผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 60.5 ล้านคน
โดยตัวภาพยนตร์มีกำหนดการฉายทาง Disney+ ในวันที่ 4 กันยายน 2020 และการรับชม Mulan ก็จะมีความแตกต่างจากภาพยนตร์หรือทีวีซีรีส์เรื่องอื่นๆ อยู่นิดหน่อย กล่าวคือผู้สมัครสมาชิกหรือผู้ใช้งานจะไม่สามารถรับชมภาพยนตร์ได้ทันที แต่พวกเขาต้อง ‘จ่าย’ เงินค่าเช่าเพิ่มเป็นจำนวน 29.99 ดอลลาร์สหรัฐ (930 บาท) เพื่อรับชมภาพยนตร์ Mulan แบบพรีเมียม ขณะที่ค่าบริการรายเดือนของ Disney+ นั้นมีราคา 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 220 บาท
สำหรับประเทศที่ยังไม่มีการเปิดให้บริการ Disney+ ทุกประเทศจะได้รับชม Mulan ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือไม่ที่ประเทศไทยเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย และล่าสุดมีการประกาศแล้วว่า Mulan จะเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ในไทยวันที่ 3 กันยายนนี้
แน่นอนว่าการตัดสินใจย้าย Mulan ไปเปิดตัวและฉายบนสตรีมมิงนั้นไม่ใช่ทางเลือกแรกที่ดิสนีย์ต้องการอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในอเมริกาที่ปัจจุบันยังคงเลวร้ายบังคับให้พวกเขาต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง และการปล่อยฉายภาพยนตร์ในรูปแบบ Video on Demand ก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วในเวลานี้ เพราะหากต้องเลื่อนฉายภาพยนตร์ไปอีกเรื่อยๆ ก็คงจะมีแต่เสียกับเสีย
อย่างไรก็ตาม ทางดิสนีย์ก็เชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของพวกเขาจะทำให้ยอดการสมัครสมาชิกหรือยอดผู้ใช้งานของ Disney+ มีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันยังเป็นการทดลองโมเดลธุรกิจแบบใหม่เพื่อดูว่าเหล่าผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้นจะยอมรับและยินดีจ่ายเงินรับชมภาพยนตร์ที่แต่เดิมควรจะฉายในโรงภาพยนตร์หรือไม่
หลังจากนี้อีก 1 เดือนเราต้องติดตามดูว่า Mulan ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เจ้าของทุนสร้างกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในลิสต์ภาพยนตร์ที่หลายคนคิดว่าต้องดูในโรงภาพยนตร์ ‘เท่านั้น’ จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน และจะคุ้มค่าแก่การรอคอยหรือไม่
ภาพ: Disney
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: