Ryohin Keikaku เจ้าของแบรนด์ MUJI ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง ตั้งเป้าเพิ่มรายได้อีก 1 ใน 3 ภายใน 3 ปี โดยมี Satoshi Shimizu ว่าที่ประธานคนใหม่เป็น ‘ผู้นำทัพ’
Shimizu เผยว่า การขยายสาขาเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกที่ฟื้นตัวจากโควิด “เราจะเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง” เขากล่าว
แผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี ตั้งเป้ารายได้ 8.8 แสนล้านเยนภายในปีงบประมาณ 2027 เพิ่มขึ้น 33% จากปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยรายได้จากต่างประเทศคาดว่าจะเติบโต 39% เป็น 3.8 แสนล้านเยน และตั้งเป้าเพิ่มกำไรและรายได้จากการดำเนินงานเฉลี่ย 10% ขึ้นไปต่อปี
ปัจจุบัน Ryohin Keikaku มีสาขา 637 แห่งในญี่ปุ่น และ 689 แห่งในต่างประเทศ โดยมีแผนเพิ่มสาขา 60 แห่งต่อปีทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนที่จะเปิดถึง 30 สาขาต่อปี ซึ่ง Shimizu เองมีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจีนและไต้หวันมาตั้งแต่ปี 2015
ในปีงบประมาณที่ผ่านมา Ryohin Keikaku มีรายได้ 6.61 แสนล้านเยน โดยธุรกิจต่างประเทศมีสัดส่วนกว่า 40% โดย 70% ของรายได้จากต่างประเทศมาจากจีนและเอเชียตะวันออก คาดว่ารายได้ในเอเชียตะวันออกจะสูงถึง 2 แสนล้านเยนเป็นครั้งแรกในปีงบประมาณนี้
จีนเป็นตลาดสำคัญของ MUJI มีสาขากว่า 400 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ แม้ยอดขายสาขาเดิมในจีนจะลดลง 3.6% ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ แต่ในเดือนตุลาคม ยอดขายสาขาเดิมรวมถึงอีคอมเมิร์ซกลับมาเติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและธุรกิจค้าปลีกดิจิทัล
ในทางกลับกัน MUJI ในยุโรปและอเมริกาเหนือประสบปัญหาอย่างหนัก จาก 73 สาขาในปี 2015 เหลือเพียง 50 สาขา MUJI เริ่มต้นในยุโรปที่ลอนดอนในปี 1991 และขยายไปยังสหรัฐฯ ในปี 2007 แต่การสร้างการรับรู้ต้องอาศัยการเปิดร้านในเมืองซึ่งมีค่าเช่าสูง
วิกฤตโควิดทำให้ MUJI USA ต้องยื่นล้มละลายในปี 2020 ส่วนในยุโรป MUJI มีปัญหาในการสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่น จนต้องยุบบริษัทในเครือที่ดูแลธุรกิจในยุโรปเมื่อต้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม Ryohin Keikaku ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการสร้างยอดขาย 3 ล้านล้านเยนทั่วโลก ซึ่งตลาดตะวันตกมีความสำคัญ
“การปรับโครงสร้างในสหรัฐฯ และยุโรปเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังเดินหน้าสู่การทำกำไร” Shimizu กล่าว “เราต้องการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเร่งการเติบโตตั้งแต่ปี 2028 เป็นต้นไป เราจะใช้เวลา 3 ปีข้างหน้าเพื่อเตรียมความพร้อม”
Shimizu จะเข้ารับตำแหน่งประธานในวันที่ 23 พฤศจิกายน โดย Nobuo Domae ประธานคนปัจจุบันจะขึ้นเป็นประธานกรรมการ Domae เข้ามาบริหาร Ryohin Keikaku ในปี 2021 หลังจากทำงานที่ Fast Retailing บริษัทแม่ของ UNIQLO เขาประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้ในตลาดตะวันตก แม้จะปิดสาขาหลายแห่ง
Shimizu จะสานต่อวิสัยทัศน์ของ Domae ในการขยายธุรกิจในเอเชียและสร้างรากฐานในตลาดตะวันตก โดย MUJI ยังคงมีแฟลกชิปสโตร์บน Fifth Avenue ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าระดับไฮเอนด์และนักท่องเที่ยว
Daisuke Aiba นักวิเคราะห์จาก IwaiCosmo Securities กล่าวว่า “น่ายกย่องที่พวกเขานำเสนอเป้าหมายที่มุ่งเน้นการเติบโตในต่างประเทศ เป็นเป้าหมายที่ท้าทายในการเพิ่มผลกำไรควบคู่ไปกับการเติบโต”
MUJI กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การนำของ Shimizu โดยมีความท้าทายรออยู่เบื้องหน้า ทั้งการรักษาฐานที่มั่นในเอเชียและฟื้นฟูธุรกิจในตลาดตะวันตก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่ออนาคตของแบรนด์บนเวทีโลก
อ้างอิง: