Ryohin Keikaku ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Muji ได้ประเมินว่า กำไรจากการดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุดในปีงบประมาณนี้ เนื่องจากการเปิดตัวรายการ ‘อาหาร’ ที่ประสบความสำเร็จในการเติมเต็มสินค้าไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น
คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 6% เป็น 4.5 หมื่นล้านเยน หรือราว 1.3 หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2022 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นใกล้เคียงกับกำไรที่บริษัททำได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ คือ 4.52 หมื่นล้านเยนในปีงบประมาณ 2017 ขณะที่ส่วนรายได้จากการดำเนินงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6% เป็น 4.8 แสนล้านเยน
ก่อนหน้านี้ผู้ค้าปลีกชาวญี่ปุ่นได้เพิ่มพื้นที่ขายให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวและอาหาร ซึ่งทำให้ลูกค้าเข้าร้านในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้เครื่องครัว ผ้าเช็ดตัว และของใช้ประจำวันอื่นๆ ก็ขายดีเช่นกัน โดย Muji พบว่ายอดขายอาหารพุ่งขึ้น 60% ในปีงบประมาณ 2021 ดังนั้นจึงจะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งที่พัฒนาขึ้นเอง รวมถึงวางขายผักสด
“เราจะเพิ่มสินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้ามีการแวะซื้อของทุกสัปดาห์เป็นอย่างน้อย” โนบุโอะ โดมาเอะ ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่ของ Ryohin Keikaku เมื่อเดือนที่แล้ว กล่าว
ด้านรายได้จากการดำเนินงานสำหรับธุรกิจในเอเชียตะวันออก ซึ่งเน้นไปที่ประเทศจีนเป็นหลัก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.26 แสนล้านเยนในปีงบประมาณปัจจุบัน แม้จะบอกว่าเพิ่มขึ้น แต่นี่จะเป็นการชะลอตัวลงอย่างมากจากการเติบโต 17% ในปีงบประมาณ 2021
ในแดนมังกรมีร้านค้า 299 แห่ง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม หรือ 30% ของยอดรวมทั่วโลก แต่ตลาดกำลังเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่แย่ลง ทั้งจากความเคลื่อนไหวต่างๆ และผลกระทบจากโรคโควิดที่ยังคงมีอยู่ กระนั้น ความต้องการแฝงในจีนยังคงแข็งแกร่ง Muji จึงจะยังคงเปิดตัวสินค้าในครัวและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อื่นๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่
ขณะเดียวกัน แม้ว่าเครื่องแต่งกายจะมีสัดส่วนประมาณ 37% ของยอดขายทั้งหมด แต่สินค้าในชีวิตประจำวัน ของกระจุกกระจิก อาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ มีส่วนสำคัญในการขาย ซึ่งเชื่อกันว่าได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าเครื่องแต่งกาย
Ryohin Keikaku ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการกระตุ้นยอดขายในยุโรปและอเมริกา ซึ่งบันทึกผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 2.1 พันล้านเยนในปีงบประมาณ 2021 โดยคาดว่าจะขาดทุน 600 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณนี้
โดยเมื่อพิจารณาจากร้านค้าขนาดเล็กของ Muji ในยุโรปจำนวนมาก ทำให้รายได้ไม่เพียงพอที่จะรองรับต้นทุนการนำเข้า Ryohin Keikaku จึงปิดร้านค้าที่ไม่ทำกำไร และแสวงหาวิธีอื่นๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เนื่องจาก “เราไม่สามารถที่จะขาดทุนต่อไปได้อีกแล้ว” แม่ทัพของ Ryohin Keikaku กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ราคาไม่มินิมัล? Muji แบ่งพื้นที่ 30% มาขาย ‘อาหาร’ ที่มีราคาสูงกว่าซูเปอร์ฯ ทั่วไป 1-2 เท่า เหตุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง
- สวนกระแสเทรนด์ค้าปลีก! ต่อไปร้านใหม่ของ Muji ในไทยจะมีขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้มไม่น้อยกว่า 1,500 ตร.ม. พร้อมตั้งเป้าเปิดปีละ 5 สาขา และจะไปในต่างจังหวัดมากขึ้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP