สตาร์ทอัพ Deep Tech จากมหาวิทยาลัยมหิดล ‘MUI-Robotics’ เร่งสเกลธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค จัดตั้งโฮลดิ้ง MUI Global ที่สิงคโปร์ เดินหน้าระดมทุน Series A มูลค่า 3–5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายแพลตฟอร์ม Sensory AI – เทคโนโลยีเลียนแบบ ‘จมูก-ลิ้น’ สำหรับควบคุมคุณภาพอาหารและสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ AI-Nose เคลมความแม่นยำ 95% ใช้งานจริงกับบริษัทอาหารข้ามชาติและผู้ประกอบการไทย เตรียมเปิดตัว ‘เสื้อดมกลิ่น’ ฝั่งสุขภาพปี 2026 และพัฒนาสัญญาณเตือนกลิ่นไฟไหม้ขนาดเล็ก ลดความเสี่ยงในครัวเรือน-ชุมชน
สตาร์ทอัพ ‘จากแล็บสู่โรงงานจริง’
MUI-Robotics (เอ็มยูไอ โรบอติกส์) ตัวแทนมหาวิทยาลัยมหิดล คือสตาร์ทอัพ Deep Tech ที่พัฒนา Artificial Senses ให้หุ่นยนต์ ‘ดม-ชิม’ ได้ใกล้เคียงมนุษย์ เทคโนโลยีแกนกลางคือ Sensory AI ผสานฮาร์ดแวร์เซ็นเซอร์เฉพาะทาง ซอฟต์แวร์วิเคราะห์สัญญาณ และคลังข้อมูลกลิ่น-รสเชิงอุตสาหกรรม ก่อร่างเป็นผลิตภัณฑ์หลัก AI-Nose (จมูกอิเล็กทรอนิกส์) และ AI-Tongue (ลิ้นอิเล็กทรอนิกส์) ที่บริษัทระบุว่ามีความแม่นยำสูงถึง 95%
ลองจินตนาการหุ่นยนต์ที่ ‘ดมครั้งเดียว’ แล้วบอกได้ว่าเมล็ดกาแฟ ปนเปื้อนหรือไม่ ถูกเก็บเกี่ยวเมื่อไร และถูกเก็บรักษาอย่างไร นั่นคือโจทย์ที่ AI-Nose ถูกออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็ว-ความเที่ยงตรงของ การควบคุมคุณภาพ (QC) และ การติดตามย้อนกลับ (Traceability) ในห่วงโซ่อุปทานอาหาร ตั้งแต่วัตถุดิบถึงปลายทางผู้บริโภค
จากโรงงานอาหารถึงคุณภาพอากาศ – ตรวจจับแบบ Real-time
MUI-Robotics นำโซลูชันไปใช้งานจริงกับ บริษัทอาหารและเครื่องดื่มข้ามชาติ และผู้ประกอบการไทย เช่น ร้านกาแฟที่ใช้ AI-Nose ประเมินคุณภาพการคั่วจากกลิ่นเมล็ดในสายการผลิต
นอกเหนือจากอาหาร บริษัทยังใช้แพลตฟอร์มตรวจ คุณภาพอากาศ-กลิ่น ในโรงงานเคมีแบบ Real-time เพื่อแจ้งเตือนสารระเหย/สารพิษรั่วไหล ‘ให้ทันก่อนเหตุรุนแรง’ โดยอุปกรณ์เชื่อมต่อผ่าน IoT/5G/SIM ลดข้อจำกัดด้านเครือข่ายภายใน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘MUI-Robotics’ ทีมไทยจากมหิดล เข้ารอบ 60 ทีมสุดท้ายในเวที Lee Kuan Yew Competition
- LKYGBPC ครั้งที่ 12: เวที Deep Tech ด้านความยั่งยืนที่ร้อนแรงที่สุดในเอเชีย สองรางวัลใหญ่…
ภาคเกษตร-ชุมชน: เก็บข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เซ็นเซอร์สามารถวัดการสะสม แอมโมเนีย เพื่อกำหนด ‘จังหวะทำความสะอาด’ ที่เหมาะสม ลดกลิ่นรบกวนและผลกระทบต่อชุมชน ขณะที่ฝั่งครัวเรือน บริษัทกำลังพัฒนา ‘สัญญาณเตือนกลิ่นไฟไหม้ขนาดเล็ก’ ซึ่งจับได้ก่อนลุกลาม ซึ่งสำคัญกับบ้านที่ใช้วัสดุสังเคราะห์ติดไฟง่าย และผู้สูงอายุที่ การรับกลิ่นถดถอย เร็วกว่าประสาทสัมผัสอื่น
ก้าวสู่เฮลท์เทคปี 2026: ‘เสื้อดมกลิ่น’ คัดกรองโรคแบบไม่รุกล้ำ
บนโรดแมปสุขภาพ MUI-Robotics ตั้งเป้าเปิดตัว ‘เสื้อดมกลิ่น’ ในปี 2569 (2026) อุปกรณ์สวมใส่ที่เก็บและวิเคราะห์กลิ่นกายเพื่อตรวจสัญญาณ เบาหวาน/มะเร็งระยะแรก แบบไม่ต้องเจาะเลือด ช่วยเพิ่มการเข้าถึงในชุมชนรายได้น้อย เริ่มจากตลาด Wellness ก่อนขยายไปสู่สถานะเครื่องมือแพทย์เต็มรูปแบบภายใต้การกำกับดูแล
บริษัทกำลังโตด้วยรายได้ประจำ (Recurring) โดยมีโมเดลธุรกิจ 3 ทาง:
- ขายฮาร์ดแวร์ ควบ ซอฟต์แวร์รายเดือน
- Subscription 6–12 เดือน (รับฮาร์ดแวร์+ซอฟต์แวร์)
- บริการ Data Analytics/On-site Monitoring
ข้อมูลจากทีมผู้ก่อตั้งระบุว่า MUI-Robotics มีพนักงาน 23 คน รายได้ปีล่าสุด ประมาณ 20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิราว 13%
ตั้งโฮลดิ้งสิงคโปร์ ระดมทุน Series A เพื่อสเกล
เพื่อรองรับการขยายภูมิภาค บริษัทได้ตั้งโฮลดิ้ง MUI Global ที่สิงคโปร์ และอยู่ระหว่างการทรานส์ฟอร์มโครงสร้างให้สิงคโปร์เป็นบริษัทแม่ ควบคุมบริษัทย่อยในไทย-มาเลเซีย โดยยืนยันว่า ‘แบรนด์และการดำเนินงานในไทยยังคงอยู่’
ทั้งนี้ แผนระดมทุน Series A มูลค่า 3 – 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะใช้เพื่อขยายผลิตภัณฑ์ ปักหมุดตลาด และพัฒนา Sensory Foundation Model สำหรับอุตสาหกรรมหลัก
ผศ.ดร.ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ (CIO) คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล (ซ้ายสุด)
ดร.วันดี วัฒนกฤษฎิ์ (CEO) ปริญญาเอกด้านวัสดุศาสตร์ (กลาง)
พัฒนนาถ วงศ์วาน (เอม) (Chief Business Development Officer) (ขวาสุด)
จุดเริ่มต้น MUI-Robotics
MUI-Robotics ก่อตั้งปี 2564 (2021) โดยทีมผู้ก่อตั้ง คือ
- ดร.วันดี วัฒนกฤษฎิ์ (CEO) ปริญญาเอกด้านวัสดุศาสตร์
- ผศ.ดร.ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ (CIO) คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล
- พัฒนนาถ วงศ์วาน (เอม) (Chief Business Development Officer)
สตาร์ทอัพนี้ ได้รับการบ่มเพาะจากสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันดำเนินงานใน สิงคโปร์-มาเลเซีย-ไทย
ดร.วันดี หนึ่งในทีมผู้ก่อตั้ง เล่าถึงที่มาของพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมว่า “ระหว่างเรียนปริญญาเอก เธอสูญเสียคุณพ่อจากมะเร็ง ประสบการณ์นั้นทำให้เธอมุ่งใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้ใครต้องเผชิญความสูญเสียเพราะตรวจพบช้า การก่อตั้ง MUI-Robotics คือการแปลงความสูญเสียให้กลายเป็นผลกระทบที่มีความหมาย”