แม้ในปีที่ผ่านมา MR. D.I.Y. จะเปิดสาขาใหม่ไปกว่า 188 แห่ง แต่ยังไม่อิ่มตัว หลังพบคนไทยซื้อสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านมากถึง 50% ประกอบกับสัญญาณเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ปีนี้เดินหน้าขยายร้านเพิ่มอีก 195 สาขาทั่วประเทศ พร้อมย้ำประเทศไทยเป็นตลาดที่โตเร็วกว่าประเทศอื่น
“เราต้องการทดลองตลาดว่าการขยายสาขาจำนวนมากๆ จะมาถูกทางหรือไม่ แต่ก็เห็นแล้วว่ากลยุทธ์นี้สำเร็จ ที่เห็นได้ชัดเลยคือช่วงโควิดยอดขายไม่ได้ชะลอตัว และวันนี้ภาวะเศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัว ทำให้ยังมีโอกาสอีกมาก” แอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย กล่าว
สำหรับในปี 2567 MR. D.I.Y. ยังโฟกัสไปที่การขยายสาขาเช่นเดิม พร้อมเตรียมงบลงทุน 2 พันล้านบาท ขยายสาขาใหม่เพิ่ม 195 แห่งทั่วประเทศไทย เป็นร้านรูปแบบสแตนด์อโลน พื้นที่ 700 ตารางเมตร เน้นเปิดในแหล่งชุมชนและโรงเรียน โดยมีเป้าหมายเปิดให้ครอบคลุม 77 จังหวัด และทุกๆ สาขาจะครอบคลุมพื้นที่รัศมี 3 กิโลเมตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- MR. D.I.Y. เลือกไทยเป็นประเทศที่ 2 ในการบุกออนไลน์ สร้างความต่างจากหน้าร้านด้วยสินค้าขายดีและยิ่งซื้อเยอะยิ่งลด พร้อมเปิดสาขาใหม่ทุกๆ 2 วัน
- MR. D.I.Y. ร้านจิปาถะจากมาเลเซีย เตรียมติดนามสกุลมหาชน คาดระดมทุนได้ 1.1 หมื่นล้าน เป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี
- จากดินแดนอาทิตย์อุทัยสู่ดินแดนภารตะ เรื่องราวความสำเร็จของแบรนด์ญี่ปุ่นในอินเดียที่มีคำว่า ‘มินิมัล’ เป็นตัวแปรหลัก
สิ่งที่น่าสนใจของ MR. D.I.Y. มีจุดขายเรื่องความหลากหลายของสินค้า 1,500 รายการ ทั้งสินค้าลิขสิทธิ์ สินค้าภายในบ้าน อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และของตกยอดฮิตในช่วงเทศกาล ทั้งปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส ด้วยการกำหนดราคาที่เข้าถึงง่าย ควบคู่กับการจัดแคมเปญและโปรโมชันอยู่เป็นระยะๆ ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ยังเตรียมขยายช่องทางขายไปยัง LazMall และ TikTok Shop หลังจากได้ประเดิมเปิดตัวร้านใน Shopee ไปแล้ว โดยช่องทางที่มองว่ามีโอกาสอย่างมากคือ TikTok Shop ปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจการไลฟ์ขายสินค้าในช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเราจะพัฒนาคอนเทนต์จากสินค้าของ MR. D.I.Y. ที่สื่อถึงการที่ลูกค้านำไปใช้งานก็จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น นอกจากเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายแล้วยังทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักกว้างขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ปัจจุบัน MR. D.I.Y. เป็นหนึ่งในผู้นำด้านค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านรายใหญ่ในเอเชีย มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 2,500 ร้านใน 10 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, ไทย, บรูไน, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, สเปน, ตุรกี, กัมพูชา และอินเดีย โดยประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตเร็วกว่าประเทศอื่น