วันนี้ (23 ธันวาคม) พรรคพลวัต นำโดย กัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรค, สุรพันธ์ ไวยากรณ์ รองหัวหน้าพรรค และ อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล เปิดโครงการปฐมนิเทศให้ความรู้ด้านกฎหมายเลือกตั้งแก่สมาชิก และผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ของพรรค
กัณวีร์กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง ว่า พรรคพลวัตเกิดมาใหม่ ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนในการเตรียมความพร้อม จัดตั้งพรรค มีสมาชิกพรรคเพิ่มเติม และผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ย้ำว่า เรามีความพร้อมทั้งฝ่ายบริหาร มีแบบบัญชีรายชื่อ และลงสมัครในระบบเขตด้วย 100% ในการเดินหน้าต่อไป
ส่วนการส่งผู้สมัครนั้น สุรพันธ์ระบุว่า เราส่งผู้สมัคร 25 จังหวัด คัดเลือกกันอย่างเข้มข้น ทั้งหมด 90 เขตทั้งประเทศ แบ่งเป็น กทม. ส่ง 28 เขต และนนทบุรีเกือบครบทุกเขต และอื่นๆ กระจาย ทั้งพิษณุโลก นราธิวาส ปัตตานี รวมถึงจังหวัดตามแนวชายแดน เป็นพื้นที่เป้าหมายเราด้วย ขณะที่การส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อมี 24 รายชื่อ และลำดับคณะกรรมการบริหารพรรคจะจัดสรรอีกที และจะส่งผู้สมัครให้เพียงพอต่อการเสนอชื่อในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย เรามีการเตรียมตัวน้อย แต่จาก 90 เขต ก็มีโอกาส อย่างใน กทม. และนนทบุรีซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของตนเองด้วย อย่างไรก็ตาม คิดว่าเราต้องปักหมุดให้ได้ และในพื้นที่ปริมณฑล และชายแดนด้วย เรามีความตั้งใจที่จะทำให้เต็มที่
นายกัณวีร์ กล่าวถึง นโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคเรายืนอยู่บนหลักการของระบอบสังคมนิยมประชาธิปไตย โดยผลิตความคิด 6 เสาหลัก เรื่องสิทธิ 5 หมวด 23 นโยบาย โดย 6 เสาหลัก มีดังนี้
1. การอยู่รอดอย่างมีศักดิ์ศรี คือมุ่งเน้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน
2. สิทธิเพื่ออนาคต เรื่องการศึกษา
3. สิทธิแรงงาน คนทำงาน โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบที่มีอยู่มาก โครงสร้างของสหภาพแรงงาน
4. สิทธิการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำให้คนพื้นฐาน หรือฐานรากเข้าถึง และยืนได้ด้วยขาของตัวเอง
5. สิทธิของคนในบั้นปลายชีวิตของผู้สูงอายุ
6. สิทธิเรื่องความปลอดภัย และศักดิ์ศรีของคนไทย ผลกระทบข้ามชาติ จะทำอย่างไรให้ไทยเข้าไปอยู่ในเวทีโลกได้อย่างผ่าเผย
“ดังนั้น 6 เสาหลักนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พรรคพลวัตผลิตนโยบายออกมาทั้ง 23 นโยบาย ที่จะเข้าไปเสนอแนวคิดให้ประชาชนและประเทศไทยว่าจะเข้าไปโอบอุ้ม ดูแลคนเปราะบางที่รัฐเพิกเฉย เรามีความแตกต่างเรื่องการเข้าถึงอย่างมีความหมาย เข้าถึงโอกาสและสิทธิ ความเท่าเทียม และหลักประกัน สิทธิต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องร้องขอ หรือรออีกต่อไป” กัณวีร์กล่าง
กัณวีร์กล่าวย้ำว่า เรื่องชายแดนเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรคเรา โดยเห็นผลกระทบข้ามแดนจากเพื่อนบ้านมาถึงไทย ได้รับผลกระทบมาก ปัจจุบันเรายังมีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ให้สงบมากกว่านี้ ต้องมองถึงสันติภาพ รักษาอธิปไตย เราจะเสนอการแก้ไขปัญหาทั้งฝั่งกัมพูชา และเมียนมา ทั้งนี้ ชายแดนใต้สันติภาพยังไม่เกิด
กัณวีร์ชี้ว่า รัฐบาลที่ผ่านมา ตนเองยังไม่เห็นถึงความตั้งใจจริง หรือเจตจำนงของรัฐบาลชุดไหนเลย ในการนำสันติภาพให้เกิดขึ้นในชานแดนใต้ เราขออาสาลงไปเสนอแนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหาวารปนเปื้อนในแม่น้ำ ตามชายแดนเมียนมา ซึ่งจะใช้การเสนอการแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดนเป็นหนึ่งนโยบายหลักของเราด้วย
กัณวีร์ กล่าวเสริมว่า พรรคพลวัต เป็นพรรคนักปฏิบัติจริงๆ เฟ้นหาคนเข้ามาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าไปเสนอกฎหมายเพื่ออุดรอยรั่วในทางปฏิบัติ
“พรรคพลวัต ยังคงเน้นย้ำพื้นที่จังหวัดชายแดน ทั้งจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังชูสันติภาพปาตานี ชายแดนไทย-เมียนมา ทั้งเรื่องสันติภาพตามแนวชายแดน การจัดการสแกมเมอร์ และปัญหาสารพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาละวิน งานด้านสิทธิมนุษยชน ที่ผมเคยทำไว้ก็จะทำต่อเนื่องทั้งหมด” กัณวีร์กล่าวย้ำ


