วานนี้ (30 มกราคม) ที่พรรคก้าวไกล พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการนัดรับประทานอาหารเย็นกระชับมิตรของแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็น 1 วันหลังจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
พริษฐ์กล่าวว่า เรื่องวันที่ประจวบเหมาะกัน น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ความจริงการหารือร่วมกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นประจำ เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีเอกภาพ แม้ว่าการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาจไม่ได้มีลักษณะเดียวกันกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอาจไม่ได้มีการรวมตัวกันเป็นกิจจะลักษณะ แต่การหารือแนวทางการทำงานร่วมกันก็เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนเรื่องหัวข้อในการอภิปรายทั่วไป พริษฐ์กล่าวว่า เคยถูกพูดคุยอย่างเป็นทางการในการประชุมมาแล้วเบื้องต้น แม้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจเรื่องวันเวลา แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากงบประมาณปี 2567 ผ่าน 3 วาระไปแล้ว ซึ่งเวลาที่เป็นไปได้สุดคือช่วงต้นเดือนเมษายน ก่อนที่จะปิดสมัยประชุม ส่วนจะเป็นแบบลงมติหรือไม่ต้องหารืออีกที
ขณะที่อาจมีการเปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น พริษฐ์กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีนี้เป็นการหารือทั่วไปที่เกิดขึ้นโดยปกติอยู่แล้ว
“ในระบบรัฐสภา ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ได้มีลักษณะเหมือนกัน พรรคร่วมฝ่ายค้านในหลายประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภาอาจมีจุดยืนที่เหมือนและแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี เพราะอาจไม่ได้ตั้งใจมารวมกันเพื่อเป็นฝ่ายค้าน แต่เป็นกลุ่มพรรคที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งรัฐบาลเท่านั้น”
พริษฐ์กล่าวย้ำอีกว่า จุดไหนที่เห็นตรงกันก็ร่วมมือกันได้ และจะพยายามร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพที่สุด ในมุมของพรรคก้าวไกล ตั้งเป้าจะให้เวทีสภาผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ในวันที่เราเป็นเสียงข้างน้อย เราจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจาก สส. ทั้งพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลด้วย หากมีวาระใด ที่ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดที่จะมาร่วมกับเรา ก็เป็นหน้าที่และความต้องการของเราที่จะแสวงหาความร่วมมืออยู่แล้ว
สำหรับช่วงเวลาในการนัดรับประทานอาหารนั้น พริษฐ์เผยว่า เท่าที่ทราบคือช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ หลังการประชุมสภา เป็นร้านในละแวกรัฐสภา แต่รายละเอียดชื่อร้านขอให้รอการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง