วันนี้ (23 มกราคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมเปิดงานปล่อยบอลลูนยักษ์ในเขตบางขุนเทียน พร้อม ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. พรรคก้าวไกล กรุงเทพมหานคร (กทม.) เขตบางขุนเทียน เพื่อแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นำร่องสร้างเศรษฐกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ กทม.
พิธาเปิดเผยว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการเตรียมความพร้อม หาโอกาส ในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยเฉพาะช่วงการท่องเที่ยวที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งการท่องเที่ยวบอลลูนใน กทม. ยังไม่มี ขณะที่ในอาเซียนนั้นมีกันทุกประเทศ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินการท่องเที่ยว ในไทยมีที่จังเชียงใหม่ แต่วันนี้อยากลองนำร่องให้มีที่ กทม. โดยเฉพาะที่เขตบางขุนเทียน อยากหาโอกาสใหม่ๆ หาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นแม่เหล็กใหม่ นอกจากการมาดูกุ้ง หอย ปู ปลา และปลูกป่าชายเลน ซึ่งกิจกรรมวันนี้เป็นการทดลองก่อน หากไปได้ดีอาจจะได้เห็นบอลลูนเฟสติวัลในบางขุนเทียน ให้คน กทม. ชั้นในมาท่องเที่ยว
พิธายอมรับว่า แนวคิดเรื่องบอลลูนนี้เชื่อมโยงกับการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกล เนื่องจากต้องมีการเผชิญกับวิกฤตการท่องเที่ยว จึงต้องการการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เป็นนโยบายผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งจะเน้นเกี่ยวกับนวัตกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการศึกษา เรื่องปากท้อง และอื่นๆ
ในส่วนผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พิธายืนยันว่า ส่งครบทั้ง 50 เขต ส่วนตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคก้าวไกลนั้นได้ดำเนินการมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ขณะนี้ยังใช้เวลาในการเฟ้นหา เพราะต้องการผู้ว่าฯ กทม. ที่แตกต่างจากสเปกเดิมๆ ที่เน้นนำงบประมาณสร้างการคมนาคมอย่างเดียว แต่ต้องเป็นผู้สมัครที่เข้าใจคน กทม. จริงๆ ไม่ว่าจะฐานะเป็นอย่างไร มีความเข้าใจในปัญหากรุงเทพฯ หลากหลายมิติ
ส่วนที่การเปิดชื่อคู่แข่งอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นั้นยืนยันว่า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลจะมีจุดแข็งที่นำไปสู้คือ ต้อง ‘ใหม่ ชัด และโดน’
พิธาระบุว่า ไม่ได้หมายความว่าการเปิดตัวก่อนจะได้เปรียบเสมอไป เพราะที่ผ่านมาเปิดเร็วช้ำเร็วก็มี โดยสเปกผู้สมัครของก้าวไกลจะต้องรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น PM2.5 ต้องรู้ว่าปัญหาเกิดมาจากอะไร จะแก้ปัญหาอย่างไรให้ตรงจุด สามารถทำงานร่วมกับ ส.ส. ได้ อาจจะมาจากสายวิศวะหรืออาชญากรรม พร้อมระบุว่า เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้หมายถึงเรื่องของอายุ แต่มีวิธีคิดบริหารแบบใหม่ และไม่จำเป็นว่าต้องเปิดชื่อแล้วทุกคนจะรู้จัก เพราะการจะเอาแค่คนรู้จักมาเป็นผู้ว่าฯ เป็นการเมืองแบบเก่าเกินไป
เมื่อถามว่ารายชื่อที่เปิดออกมาก่อน บางคนมีข้างชื่อเสียงและมีอิทธิพลในแวดวงราชการมาก่อน คิดอย่างไร พิธากล่าวว่า ก็ต้องถามว่าประชาชนจะเอาแค่คนมีชื่อเสียง มีอิทธิพล หรือไม่ เพราะตนมองว่าไม่จำเป็น ผู้ว่าฯ เก่งแค่ไหน ถ้ากฎหมายไม่อนุญาตให้ทำก็ไม่สามารถทำได้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลมีคนในใจแล้ว แต่ขออุบไว้ก่อน เพราะต้องดูจังหวะการเมืองด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล