×

สส. ก้าวไกลแนะนายกฯ อย่าใช้ปากทำงานอย่างเดียว หลังแก้เหตุเพลิงไหม้โรงงานระยองและอยุธยาไม่คืบ

โดย THE STANDARD TEAM
02.05.2024
  • LOADING...
เหตุเพลิงไหม้

วันนี้ (2 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส. ระยอง พร้อมด้วย ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส. พระนครศรีอยุธยา พรรคก้าวไกล แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้โรงงานวิน โพรเสส จังหวัดระยอง รวมถึง เหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บสารเคมีในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พฤษภาคม)

 

ชุติพงศ์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า โรงงานวิน โพรเสส ที่จังหวัดระยอง และโกดังเก็บสารเคมีที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเจ้าของกลุ่มเดียวกัน สิ่งที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมี และมีการสั่งย้ายสารเคมีภายในโรงงานออกทั้งหมด จากนั้นก็มาเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานที่จังหวัดระยอง และล่าสุดคือเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โกดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับผู้สั่งการทำได้แค่สั่ง แต่ไม่มีแผนเผชิญเหตุ  

 

ด้วยเหตุนี้จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก และนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ เห็นผลกระทบจากกลิ่นสารเคมี ต้องถามว่าทำงานกันเป็นหรือไม่ เพราะในการลงพื้นที่ ไฮไลต์เดียวคือการไปต่อว่าอธิบดีกรมโรงงาน จนเมื่อวานอธิบดีคนดังกล่าวประกาศลาออกในที่ประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร

 

“ถ้าท่านอยากทำหน้าที่ใช้ปากทำงานต่อว่าคนอื่น ท่านเป็นฝ่ายค้านก็ได้ ท่านไม่ต้องเป็นรัฐบาลหรอก อำนาจสั่งการอยู่ที่ท่าน ท่านก็สั่งเลยว่าให้ตำรวจทำอะไร ให้แต่ละที่ทำอะไร ต้องฟ้องชดเชยเยียวยาอะไร เพราะอำนาจอยู่ในมือท่าน ต้องฝากนายกรัฐมนตรีเพราะท่านไปเห็นหน้างานมาแล้วว่าเหม็นขนาดไหน ถ้าหากท่านจะใช้ปากทำงานต่อว่าคนอื่นก็ไม่ต้องเป็นรัฐบาลก็ได้ ฝากถามไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอย่างไรถึงจะจบสักที เพราะดูเหมือนว่าท่านสั่งอะไรก็ไม่ได้ผลสักอย่าง”

 

ชุติพงศ์กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ทราบชัดเจนว่าสารเคมีในโรงงานมีอะไรบ้าง แต่เบื้องต้นพบว่าเป็นสารประเภทเดียวกันทั้ง 2 ที่ รัฐบาลที่เป็นผู้ออกใบอนุญาตให้กับโรงงานเหล่านี้ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าเอาสารเคมีอะไรเข้าไปเก็บบ้าง และมาจากที่ใด เพราะไม่มีใครรู้ เกิดหากยังหลงเหลืออยู่แต่ไม่มีที่เก็บแล้ว จากนี้จะไปโผล่บ้านใครก็ไม่ทราบ รัฐบาลต้องทำให้ชัดเจนว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งในการตรวจสอบในชั้นกรรมาธิการพบข้อพิรุธหลายอย่างในเรื่องนี้

 

ชุติพงศ์ระบุด้วยว่า หากคดีมีความชัดเจนว่าเป็นการลอบวางเพลิง เอื้อประโยชน์นายทุน เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ในฐานะฝ่ายค้านจะต้องติดตามว่าคดีเหล่านั้นดำเนินการไปถึงไหนแล้ว และการขนย้ายใช้งบประมาณของกรมโรงงานหรือเอกชนเจ้าของโรงงาน ซึ่งคณะกรรมการก็จะติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นบทเรียนว่าการทำแบบนี้จะต้องรับโทษอย่างไรบ้าง

 

ด้านทวิวงศ์เผยว่า ปัจจุบันทีมผจญเพลิงรับมือได้มีการเตรียมแผนรับมือ เนื่องจากพบกรดกัดกร่อนรุนแรงที่พื้นโรงงาน หลังจากไฟไหม้ตลอดทั้งคืน จึงต้องปรับแผนไปดับเพลิงบนหลังคา พร้อมเรียกร้องรัฐบาลเตรียมแผนรับมือ ชดเชยเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อน และมาตรการดูแลเจ้าหน้าที่ทั้งการตรวจสุขภาพและการรักษาในระยะยาว ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังพบรอยตัดรั้วลวดหนาม หลังถูกดำเนินคดีที่ใช้กันพื้นที่โรงงานที่ถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง จึงต้องไปตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X