วันนี้ (12 มีนาคม) ที่สามย่านมิตรทาวน์ พรรคก้าวไกลจัดเวที ‘เคลื่อนกรุงเทพ เปลี่ยนประเทศไทย’ เพื่อประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไฮไลต์สำคัญของเวทีนี้คือการเปิดชุดนโยบาย ‘กาก้าวไกล กรุงเทพไม่เหมือนเดิม’ และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพฯ ครบทั้ง 33 เขต โดยบรรยากาศที่เวทีเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนเห็นการทำงานของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคก้าวไกล ตลอด 9 เดือน และ ส.ส. พรรคก้าวไกล ตลอด 4 ปี มี 2 ความรู้สึก คือทั้งภูมิใจและเจ็บใจ ตนภูมิใจที่ ส.ส. อย่างเท่าพิภพและณัฐชา และ ส.ก. อย่างภัทราภรณ์, อำนาจ และพุทธิพัชร์ ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ตามอำนาจที่มี
สำหรับ ส.ก. พวกเขาทำงานเต็มที่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในเขต ทั้งน้ำท่วม ไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนหนทาง ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างการเปลี่ยนรถเมล์เป็นไฟฟ้าเพื่อลดฝุ่นพิษ PM2.5 สำหรับ ส.ส. พวกเขาทำงานเต็มที่เพื่อผลักดันกฎหมายอย่างสุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม และยังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดเผยกรณีทุจริตคอร์รัปชัน ความเลวร้ายของรัฐบาล ตั้งแต่การทำไอโอให้ประชาชนแตกแยกเกลียดชังกันเอง การทุจริตเคหะสุขประชา ในขณะที่งานพื้นที่ ดูแลพี่น้องประชาชน ก็ไม่เคยบกพร่อง
พิธากล่าวต่อว่า ในความภูมิใจว่าพวกเราทำหน้าที่ได้คุ้มค่าภาษีประชาชน จนประชาชนไว้วางใจบริจาคภาษีให้เราเป็นแชมป์ 4 ปีซ้อน ก็ยังมีความเจ็บใจอยู่ เจ็บใจที่เรายังมีจำนวนน้อยเกินไป ไม่สามารถรับใช้พี่น้องประชาชนได้ทุกเขต ได้เต็มที่เท่าที่เราอยากจะทำ ไม่สามารถเปลี่ยนประเทศได้เร็ว ได้ไกล เท่าที่เราตั้งใจ เพราะเรามี ส.ก. เท่านี้ วันนี้เราจึงยังทำได้แค่เคลื่อนกรุงเทพฯ ไปข้างหน้า ทีละเล็กละน้อย ทีละเขต ทีละพื้นที่ ทำศูนย์เยาวชนในบางซื่อได้ ลอกท่อป้องกันน้ำท่วมในบางแค ในจตุจักรได้ เพิ่มป้ายรถเมล์ทวีวัฒนาได้ ทำทางเท้าดีในบางนาได้ แต่ยังเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้
เพราะเรามี ส.ส. เท่านี้ กฎหมายสุราก้าวหน้าจึงแพ้ไปเพียง 2 เสียง อีกก้าวเดียวก็จะถึงชัยชนะที่ปลดปล่อยผู้ประกอบการนับแสน คนทั่วประเทศให้ทำอาชีพที่พวกเขารักได้อย่างถูกกฎหมาย เพราะเรามี ส.ส. เท่านี้ สมรสเท่าเทียมที่คนทั้งประเทศเรียกร้องรอคอยจึงยังค้างเติ่งอยู่ในสภา ไม่สามารถผ่านสภาในสมัยนี้ได้ ทำให้ประชาชนผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องรอต่อไปอีกไม่รู้กี่เดือนกี่ปี เราสร้างการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อยในสภาผ่านกรรมาธิการ ผ่านการอภิปราย ผ่านการเสนอกฎหมาย แต่เรายังเปลี่ยนประเทศไทยไม่ได้
พิธากล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ประเทศไทยต้องการการผ่าตัดใหญ่ ต้องการการรื้อปัญหาใต้พรมที่หมักหมมมาตั้งแต่รัฐประหารขึ้นมาจัดการแก้ไขให้สิ้นซาก พรรคก้าวไกลส่งผู้สมัครลงทุกเขต ครบ 77 จังหวัดในประเทศไทย เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เลือกผู้แทนที่ทำงานได้คุ้มค่าภาษีประชาชนที่สุดได้เข้าสภา ที่ผ่านมาหลายคนบอกว่ารอบนี้มีบัตรสองใบ ขอแบ่งพรรคละใบ จะกาก้าวไกลในบัตรพรรค แต่ตนขอให้ลองพิจารณาใหม่ ส.ส. อย่างณัฐชา อย่างเท่าพิภพ อย่างรังสิมันต์ โรม ยังมีน้อยเกินไปในสภา กาใบเดียวไม่พอสร้างการเปลี่ยนแปลง พรรคก้าวไกลจึงต้อง ‘ขอ 2’ คือบัตรใบแรกกา ส.ส. เขตไว้ใช้งาน ให้บ้านท่านได้มี ส.ส. ก้าวไกล ที่ทำงานได้คุ้มค่าภาษีประชาชน และบัตรใบที่สองกาให้พรรคก้าวไกล กาให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กาให้ได้รัฐบาลก้าวไกลไปเปลี่ยนประเทศไทยให้ก้าวหน้า การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
ต่อมา อำนาจ ปานเผือก ส.ก. เขตบางแค และ พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก. เขตยานนาวา ร่วมแถลงผลงานของ ส.ก. พรรคก้าวไกล โดยอำนาจกล่าวว่า จากการทำงานตลอด 9 เดือน ส.ก. พรรคก้าวไกลแก้ไขปัญหาของประชาชนสำเร็จหลายเรื่อง ขอยกตัวอย่างในบางเขต เช่น เขตจตุจักร ติดตั้งไฟฟ้า LED เพื่อลดความเสี่ยงการก่ออาชญากรรม, เขตบางแค ลอกท่อจุดท่วมขังมากกว่า 60 จุด, ผลิตหนังสือพิมพ์ก้าวไกลเพื่อรวบรวมและแจ้งความคืบหน้าของการทำงานให้พี่น้องประชาชนทราบ
ด้านพุทธิพัชร์กล่าวว่า ส.ก. พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการรับฟังความต้องการของประชาชน ที่เขตราชเทวี ส.ก. เราเดินทุกซอกซอย ถามประชาชนว่าอยากให้นำงบประมาณไปทำอะไร เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและใช้งบประมาณอย่างตรงจุด, เราทำทางเท้าที่น่าเดินในเขตบางนา ผลักดันถนนอุดมสุขให้เป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการปรับปรุงทางเท้าให้ดีมีมาตรฐานทั้งเส้นกว่า 4 กิโลเมตร, ปรับปรุงถนนพระราม 3 และในอนาคตจะออกแบบวางแผนการซ่อมสร้างอย่างเป็นระบบ รวมทั้งยังเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในเขตยานนาวา
จากนั้น ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก. เขตบางซื่อ ประกาศวาระกรุงเทพฯ ว่า ที่ผ่านมาคนอาจคุ้นเคยกับบทบาท ส.ก. เช่น ซ่อมไฟ ลอกท่อ ทำหมันหมาแมว แม้เหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แต่ ส.ก. พรรคก้าวไกลเชื่อว่าเราทำได้มากกว่านั้น และนี่คือ 4 วาระสำคัญที่เราจะทำให้สำเร็จ ได้แก่
(1) การปรับปรุงศูนย์เยาวชนเตชะวณิชในเขตบางซื่อให้มีความทันสมัย และมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายสำหรับเด็กและผู้สูงอายุในพื้นที่
(2) การพัฒนาระบบขนส่งในเขตทวีวัฒนา ติดตั้งป้ายรถเมล์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
(3) การระบายน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน พรรคก้าวไกลเสนอให้นำ IoT มาใช้วัดระดับการไหลของน้ำ และเสนอเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลแข่งกันเพื่อให้การลอกท่อทำได้เร็วขึ้น
(4) การเสนอกฎหมายรถเมล์อนาคต กำหนดให้รถเมล์ที่วิ่งใน กทม. ต้องเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมดภายใน 7 ปี
ทั้งหมดนี้คือบางส่วนที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ไปอย่างถาวรในการเลือกตั้งที่จะมาถึง จึงขอให้ประชาชนกาก้าวไกลเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไปตลอดกาลเช่นกัน
ตามมาด้วยการเปิดชุดนโยบาย ‘กาก้าวไกล กรุงเทพไม่เหมือนเดิม’ โดย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน และ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพฯ เขตธนบุรี เริ่มด้วยณัฐชากล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายแบ่งเป็น 3 ด้านหลัก
ด้านแรกคือ ‘การเมืองดี’ กรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองโปร่งใสไร้ส่วย ด้วยการเปิดข้อมูลรัฐ มีระบบ AI จับโกงอัจฉริยะ ทุกบริการภาครัฐทำได้ออนไลน์ ลดความจำเป็นในการจ่ายส่วย, เป็นเมืองปลอดภัย มีกล้อง CCTV ดูได้แบบเรียลไทม์ ปิดจุดบอดอาชญากรรม, ย้ายค่ายทหารออกจาก กทม. เพราะปัจจุบันพื้นที่ทหารใน กทม. มี 26 แห่ง รวม 19,200 ไร่
ส่วนนโยบายด้านที่สอง ‘ปากท้องดี’ เราจะลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคน กทม. ให้รถเมล์และรถไฟฟ้ามีราคา 8-45 บาทตลอดสาย ใช้บัตรใบเดียว ครอบคลุมทุกพื้นที่, ลดค่าผ่อน-ค่าเช่าบ้าน ด้วยนโยบายบ้านตั้งตัว 350,000 หลัง, สร้างรัฐสวัสดิการ ให้ประชาชนทำงานมีเงินเก็บ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือนแบบถ้วนหน้า
ขณะที่เท่าพิภพกล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะฟื้นเศรษฐกิจและสนับสนุนผู้ค้ารายย่อยใน กทม. ด้วยนโยบายหวย SME ซื้อของจากรายย่อยครบ 500 บาท ได้สลาก 1 ใบ ได้ลุ้นเงินล้านทั้งคนซื้อและคนขาย, นโยบายเศรษฐกิจกรุงเทพ 24 ชั่วโมง เพิ่มรายได้ของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการยกเลิกจำกัดเวลาขายเหล้า ให้ขายเหล้าได้ตลอดวัน รวมถึงคุ้มครองความปลอดภัยของคนทำงานกลางคืนและนักท่องเที่ยว เช่น เพิ่มไฟส่องสว่าง เพิ่มขนส่งสาธารณะกะดึก มีกองทุนช่วยเหลือคนทำงานกลางคืน
นโยบายด้านสุดท้าย ‘มีอนาคต’ ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น มี Co-studio Space และ Co-creating Space ทุกเขต, รถเมล์ใหม่ทุกคันต้องเป็นไฟฟ้าทันที รถเมล์ควันดำหมดไปภายใน 7 ปี เพื่อให้ขนส่งในกรุงเทพฯ สะอาดไร้ฝุ่นพิษ รวมถึงมีกองทุนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้รัฐจ้างที่ปรึกษาทำ EIA แทนเอกชนจ้างตรง ประชาชนได้รับการชดเชย ไม่ต้องรอฟ้องศาล
จากนั้นพรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต ประกอบด้วย
- ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ (เขตพระนคร)
- ธิษะณา ชุณหะวัณ (เขตปทุมวัน)
- จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ (เขตยานนาวา)
- ภัณฑิล น่วมเจิม (เขตคลองเตย-วัฒนา)
- เฉลิมชัย กุลาเลิศ (เขตห้วยขวาง)
- กันตภณ ดวงอัมพร (เขตดินแดง)
- ภัสริน รามวงศ์ (เขตบางซื่อ)
- ชยพล สท้อนดี (เขตหลักสี่)
- ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ (เขตจตุจักร)
- เอกราช อุดมอำนวย (เขตดอนเมือง)
- ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ (เขตสายไหม)
- ภูริวรรธก์ ใจสำราญ (เขตบางเขน)
- ธนเดช เพ็งสุข (เขตลาดพร้าว)
- สิริลภัส กองตระการ (เขตบางกะปิ)
- วิทวัส ติชะวาณิชย์ (เขตคันนายาว)
- นายิกา ศรีเนียน (เขตบึงกุ่ม)
- พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ (เขตคลองสามวา)
- วีรวุธ รักเที่ยง (เขตหนองจอก)
- กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ (เขตมีนบุรี)
- ชุมพล หลักคำ (เขตลาดกระบัง)
- ณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ (เขตประเวศ-สะพานสูง)
- สุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ (เขตสวนหลวง)
- ปิยรัฐ จงเทพ (เขตพระโขนง-บางนา)
- เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร (เขตธนบุรี)
- แอนศิริ วลัยกนก (เขตทุ่งครุ)
- ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ (เขตจอมทอง)
- ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ (เขตบางขุนเทียน)
- รักชนก ศรีนอก (เขตบางบอน)
- สิริน สงวนสิน (เขตทวีวัฒนา)
- ธัญธร ธนินวัฒนาธร (เขตบางแค)
- ทิสรัตน์ เลาหพล (เขตตลิ่งชัน)
- ปวิตรา จิตตกิจ (เขตภาษีเจริญ-บางกอกใหญ่)
- พงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ (เขตบางพลัด-บางกอกน้อย)