วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่บริเวณด้านหน้าสถานบันเทิง Mountain B ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นิชารัตณ์ กีรติจริยาพรรณ ญาติของ รังสิมันต์ วนิชโรจนาการ อายุ 30 ปี มือคีย์บอร์ดที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ร่วมพูดคุยกับ สุวดี ซื่อตรง ตัวแทนเจ้าของร้าน Mountain B เพื่อถามถึงแนวทางการเยียวยาและความรับผิดชอบจากทางร้าน พร้อมสอบถามข้อสงสัยว่า เหตุใดน้องชายจึงไม่ยอมหนีออกมาทางประตูด้านหลัง และจริงหรือไม่ที่ประตูล็อก ทำให้ไม่สามารถออกมาได้ เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต
สุวดีได้พานิชารัตณ์และญาติไปที่บริเวณประตูร้าน พร้อมอธิบายว่า ประตูด้านหลังร้าน ซึ่งเป็นจุดที่รังสิมันต์จอดรถอยู่ ไม่ได้ล็อกตามที่เป็นข่าว เนื่องจากประตูนี้มีไว้สำหรับนักดนตรีเข้า-ออกอยู่แล้ว แต่ที่หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงไม่ออกประตูนี้ เนื่องจากว่าจุดที่เกิดประกายไฟคือด้านซ้ายของเวที ซึ่งตรงกับจุดที่เป็นประตูด้านหลังเวที จึงเชื่อว่าตอนเกิดเหตุไม่มีใครวิ่งเข้าหาไฟ พร้อมยืนยันว่าเจ้าของร้านไม่มีทางหนีและจะรับผิดชอบแน่นอน
โดยกล่าวต่อว่า ในช่วงที่เกิดเหตุเจ้าของร้านและพนักงานอยู่ในที่เกิดเหตุตลอดเวลาและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่วิ่งหนีออกมาด้านนอกได้ จากนั้นได้ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ใช้เวลาตลอดทั้งคืน
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานกับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทุกคน เบื้องต้นทางร้านจะจัดส่งพวงหรีดไปแสดงความเสียใจต่อทุกครอบครัว ส่วนเรื่องเงินเยียวยาก็จะไปตกลงกับทุกครอบครัวเช่นกัน โดยยืนยันว่าจะช่วยเหลือทั้งหมด
สุวดียังกล่าวอีกด้วยว่า ภายในผับมีทางออกหนีไฟ 3 ทาง แต่บางคนที่เข้ามาใช้บริการซึ่งเป็นลูกค้าใหม่อาจไม่ทราบว่ามีทางออก ส่วนเรื่องการล็อกประตูด้านหลังยืนยันว่าก่อนหน้านี้เปิดอยู่ แต่ไม่ทราบว่ามีการล็อกได้อย่างไร เพราะปกติแล้วก็เป็นพนักงานขายของอยู่ด้านหน้าผับ ส่วนการซ่อมแซมภายในอย่างระบบไฟฟ้าก็มีการซ่อมแซมตามวงรอบ
ส่วนการขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการจะถูกต้องหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะเป็นการขอโดยเจ้าของร้าน และยืนยันว่าเจ้าของร้านมีเพียงคนเดียวทั้ง 3 ร้านที่เปิดเป็นร้านอาหาร ร้านหมูกระทะ และผับ ไม่มีหุ้นส่วนเป็นข้าราชการหรือบุคคลใด เพราะปกติเวลาถูกร้องเรียน เจ้าของร้านก็จะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนคอยช่วยเหลือ
ด้านนิชารัตณ์กล่าวว่า น้องชายเป็นคนขยันทำงาน เป็นหัวหน้าครอบครัว มีลูกอีก 2 คน ตอนนี้ภรรยาเครียดมาก ไม่รู้จะบอกลูกๆ อย่างไร จึงไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบและหายไป ขอให้กรณีของน้องชายเป็นกรณีตัวอย่าง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก