×

สธ. หารือร่วมทุกฝ่าย เห็นตรงกันกำหนดมียาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดสันนิษฐานเป็นผู้เสพ หากพบพฤติกรรมขายต้องถูกดำเนินคดี

โดย THE STANDARD TEAM
03.11.2023
  • LOADING...
ยาบ้า

วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมหารือการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.), สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, สำนักงานอัยการสูงสุด, สำนักงานศาลยุติธรรม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 

 

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มีนโยบายเรื่องยาเสพติดโดยการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งการออกร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. … ตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 นั้น 

 

กระทรวงสาธารณสุขเคยเสนอร่างฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้ให้มีการทบทวน ซึ่งจากการประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งข้อมูลวิชาการทางการแพทย์ที่มีผู้แทนจากกรมการแพทย์, กรมสุขภาพจิต, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบของยาและผลกระทบจากขนาดของยา รวมทั้งผลกระทบในมิติอื่นๆ เช่น ผู้บังคับใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และมิติต่อสังคมและชุมชน ที่จะเกิดจากกำหนดจำนวนยาเสพติด ระบบจัดการทางกฎหมาย การบำบัด กระบวนการยุติธรรม และระบบราชทัณฑ์ 

 

โดยเบื้องต้นมีความเห็นตรงกันว่า ในส่วนของเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในการครอบครองเพื่อใช้เสพ ควรกำหนดไว้ไม่เกิน 5 เม็ด 

 

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า การกำหนดปริมาณไว้ที่ 5 เม็ดจะเป็นการให้โอกาสกับผู้ที่ครอบครองตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้สันนิษฐานไว้ใช้ในการครอบครองเพื่อเสพ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้นในการแยกแยะเบื้องต้นว่าเป็นผู้เสพ ซึ่งหากสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากไม่สมัครใจบำบัดก็จะดำเนินคดีส่งศาลเพื่อบังคับบำบัดต่อไป 

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะครอบครองต่ำกว่า 5 เม็ด แต่หากสืบสวนแล้วพบพฤติกรรมว่ามีการค้า ก็จะมีความผิด ต้องถูกดำเนินคดี เพราะไม่ถือว่าเป็นผู้เสพ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ตามระเบียบของการออกร่างกฎกระทรวง จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นและประชาพิจารณ์ก่อน จากนั้นจึงจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยจะมีการพิจารณาปริมาณยาเสพติดอื่นๆ ที่ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพไว้ในร่างกฎกระทรวงด้วย 

 

ด้าน พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการกองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการทบทวนวรรณกรรมและข้อมูลจากศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า การใช้ตั้งแต่ปริมาณน้อยจนถึงเพิ่มมากขึ้นจะมีผลต่อสมองและระบบประสาทของผู้เสพแตกต่างกันไป โดยการใช้ในระดับที่มากกว่า 55 มิลลิกรัมจะทำให้เกิดอาการทางจิต หลงผิดแบบหวาดระแวง เข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วย SMI-V หรือผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง ทั้งการทำร้ายตนเองและการทำร้ายผู้อื่น ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในสังคม

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X