วันนี้ (18 ตุลาคม) ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 2 จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่พุ่งถึง 618 คน (17 ตุลาคม) จนทำให้จัดอยู่ใน 23 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม กลายเป็นพื้นที่สูงสุดและเข้มงวด ส่งผลให้กระทบถึงการทำมาหากินและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ต้องหยุดชะงักลง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ดังนั้น ตนจึงขอสนับสนุนการจัดสรรวัคซีนโควิดให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างเร่งด่วน ต่อ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถึงแม้ว่าวัคซีนโควิดจะใช้เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของอาการป่วยและเสียชีวิต ซึ่งผู้ที่ได้รับวัคซีนยังสามารถติดเชื้อได้ แต่การได้รับวัคซีนในสัดส่วน 70-80% ของประชากรทั้งจังหวัด จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนได้
ทั้งนี้ ตามกำหนดการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่จัดให้จังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่ในพื้นที่นำร่อง (สีฟ้า) ที่จะเปิดจังหวัดในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นั้น หากการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิดให้กับประชากรยังไม่ถึง 70-80% ก็อาจทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชต้องสูญเสียโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยว
หากดูจากข้อมูลรายได้การท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า ในเดือนมกราคม-สิงหาคม 2564 แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด แต่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดจำนวน 628,279 คน สร้างรายได้ 2,248.08 ล้านบาท ลดลงจากในปี 2563 ที่มีนักท่องเที่ยวมากถึง 1,247,928 คน มีรายได้ 3,826 ล้านบาท
โดยหากเปรียบเทียบกับจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองในภาคใต้อย่างจังหวัดระนอง ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 125,385 คน ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2564 มีรายได้ 315.84 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ที่มีนักท่องเที่ยว 296,563 คน มีรายได้ 1,096 ล้านบาท เช่นเดียวกับจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยว 509,617 คน ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2564 มีรายได้ 1,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีนักท่องเที่ยว 495,741 คน มีรายได้ 917 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดการท่องเที่ยวเมืองรอง แต่ก็มีรายได้เป็นอันดับ 1 ใน 55 เมืองรองของประเทศ โดยในช่วง 5 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคมของปี 2561 ก่อนการระบาดของโควิด มีนักท่องเที่ยวคนไทยมาเยือนมากที่สุด 142,445 คน มีรายได้สูงสุด 2,121 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงปี 2563-2564 แม้มีการระบาดของโควิด แต่ก็ยังสร้างรายได้ในหลัก 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตดีขึ้น” ดร.สัณหพจน์กล่าว
ดร.สัณหพจน์กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด ซึ่งทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการได้รับวัคซีนของประชาชนในพื้นที่ซึ่งยังคงมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ ดังนั้น ตนจึงอยากขอให้กระทรวงสาธารณสุขในความดูแลของอนุทินช่วยสนับสนุนจัดสรรวัคซีนให้กับจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเร่งการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ในสัดส่วน 70-80% รองรับการเปิดเมืองท่องเที่ยวในวันที่ 1 ธันวาคม ตามที่ ศบค. กำหนด
อย่างไรก็ตาม การจัดสรรวัคซีนดังกล่าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง สร้างความมั่นใจให้กับตัวของประชาชนเอง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งเป็นตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศของรัฐบาล
