‘พระจันทร์’ คือดาวเคราะห์เหงาๆ หนึ่งเดียวที่โคจรรอบโลกของเรา มันเป็นดวงดาวที่ถูกใช้ตีความไปในหลากหลายรูปแบบ เป็นทั้งตัวช่วยในการบอกเวลาและเป็นแสงสว่างหลักในค่ำคืนที่ไร้ดวงอาทิตย์ เพราะพระจันทร์ส่องสว่างได้จากแสงของดวงอาทิตย์ ความสว่างของมันจึงไม่มากพอจะส่งผลให้คนบนโลกนี้ใช้ชีวิตได้มากมายนัก อย่างไรก็ตาม สถานที่ที่ไม่มีพระจันทร์ก็ใช่ว่าจะไม่มีแสงสว่าง
เช่นเดียวชีวิตของผู้คนในซีรีส์ พระจันทร์มันไก่ Moonlight Chicken ที่แม้จะไม่มีแสงจันทร์ส่องถึงเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตจะไร้ความหวังไปเสียทีเดียว…
พระจันทร์มันไก่ Moonlight Chicken คือผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับ อ๊อฟ-นพณัช ชัยวิมล จากค่าย GMMTV ที่ได้นักแสดงแม่เหล็กของค่ายมารวมกันถึง 6 คน คือ เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ (ลุงจิม), มิกซ์-สหภาพ วงศ์ราษฎร์ (เหวิน), เฟิร์ส-คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล (อลัน), ข้าวตัง-ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล (ไก่ป่า), เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ (ฮาร์ท) และ โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล (หลี่หมิง) และยังเป็นผลงานที่ออฟได้หวนกลับมาร่วมงานกับเอิร์ท-มิกซ์อีกครั้ง หลังความสำเร็จของ นิทานพันดาว A Tale of Thousand Stars ในปี 2564
ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าชีวิตของลุงจิม เจ้าของร้าน ‘พระจันทร์มันไก่’ ร้านข้าวมันไก่กลางคืนที่มีผู้คนผ่านเข้ามาและออกไปอยู่เสมอ ภายใต้ความวุ่นวายของร้านแห่งนี้ลุงจิมต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าเซ้งร้านก้อนใหญ่, ค่าวัตถุดิบจากร้านของไก่ป่า, ค่าจ้างซาเล้ง พนักงานหนึ่งเดียวของร้าน และยังต้องดูแลหลานชายอย่างหลี่หมิงที่กำลังจะเรียนจบ ม.6 ชีวิตของลุงจิมจึงไม่มีอะไรมากไปกว่าการหาเช้ากินค่ำเพื่อให้หล่อเลี้ยงคนเหล่านี้ไปวันต่อวัน
ขณะที่ชีวิตดำเนินต่อไป ลุงจิมคือหนึ่งในตัวละครที่ค่อนข้างยึดติดกับเรื่องเก่าๆ ความคิดเก่าๆ ที่นานวันก็ยิ่งทำให้เขายึดติดและเดินต่อไปได้ไม่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับหลานอย่างหลี่หมิงที่ลุ่มๆ ดอนๆ ขนาดที่เราในฐานะคนดูยังมองว่าตัวละครนี้มีความ Toxic อยู่มากทีเดียว แม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างลุงจิมกับเหวิน ลูกค้าคนพิเศษของร้านเองก็ยังขมุกขมัวจากปมหนักๆ ที่ติดอยู่ในใจเช่นเดียวกัน
ถ้าเราเปรียบแสงจันทร์เป็นหนทางอันสดใส โอกาสในชีวิต หรือความรักดีๆ ชีวิตของลุงจิมก็เรียกได้ว่ามีแสงจันทร์ส่องลงมาได้น้อยเหลือเกิน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าลุงจิมจะไม่มีความหวังและไม่มีความฝันหลงเหลืออยู่
“ความฝันของผมไม่โรแมนติกหรอก หมดหนี้ ส่งหลานเรียนให้จบ ผมอยากลองจับเงินสักล้านหนึ่งดู ดูว่าจะเป็นยังไง”
ในฝากฝั่งของหลี่หมิงหลานชายของบ้านเองก็เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่แสงจันทร์ส่องไม่ถึงเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพราะว่าเขายึดติดกับสิ่งใด แต่เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าจะยึดติดกับอะไรมากกว่า หลี่หมิงคือตัวแทนของคนที่ยังหาตัวเองไม่เจอ เขาเป็นเพียงวัยรุ่นธรรมดาๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนหรือทำงานอะไรในวันข้างหน้า แม้ว่าส่วนตัวแล้วเราคิดว่าหลี่หมิงมีสิ่งที่อยากทำอยู่ในใจ เพียงแค่ยังไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจมากกว่า
นอกจากความสัมพันธ์ของคนในร้านข้าวมันไก่ที่เป็นแกนหลักของเรื่องแล้ว อีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจมากๆ ก็คือฮาร์ท เด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับหลี่หมิงที่ไม่สามารถได้ยินเสียงได้ หรือเรียกได้ว่าเขามีอาการหูหนวกมาประมาณ 3 ปีแล้ว การไม่ได้ยินเสียงของฮาร์ททำให้เขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน ไม่ได้รู้จักใคร และไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆ ฮาร์ทคือตัวแทนของกลุ่มที่สังคมมองข้ามและไม่ได้ทำความเข้าใจกับพวกเขามาก เป็นเพียงกลุ่มคนที่มีโอกาสน้อยนิดในการใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ซึ่งการที่ซีรีส์เลือกสร้างตัวละครฮาร์ทขึ้นมาก็น่าจะทำให้คนกลุ่มเดียวกับฮาร์ทได้รับแสงสว่างและโอกาสในสังคมมากขึ้น
ซีรีส์เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของทั้งทีมงานและนักแสดงได้อย่างดี ตั้งแต่เนื้อเรื่องแนวโรแมนติก-ดราม่าที่ไม่ใช่ทางถนัดของค่ายและผู้กำกับมากนัก แต่ก็ทำออกมาได้ดีในเชิงความสัมพันธ์และภูมิหลังของตัวละคร ในส่วนของนักแสดงเองก็ค่อนข้างท้าทายด้วยบทบาทที่ซับซ้อนและโตกว่าอายุจริง ทำให้ต้องใช้ความสามารถและการทำการบ้านอย่างหนัก
ส่วนของการแสดงที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษคือการแสดงของมิกซ์ที่ทำให้เห็นมิติของตัวละครเหวินได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ วิธีการคิด การสื่อสาร รวมไปถึงการใช้ร่างกายต่างๆ ด้วย นอกจากมิกซ์แล้ว ข้าวตังก็เป็นนักแสดงอีกหนึ่งคนที่สื่อสารความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากสารภาพรักในอีพี 6 ที่ต้องใช้อารมณ์หลายชั้นในการแสดงความรู้สึกออกมา ซึ่งข้าวตังก็สามารถสื่อถึงความเจ็บปวดภายในของตัวละครไก่ป่าได้ดีมาก
อีกสองนักแสดงดาวรุ่งที่เราอยากพูดถึงก็คือโฟร์ทและเจมีไนน์ ที่รับบทเป็นหลี่หมิงและฮาร์ท สองตัวละครนี้คือคนที่จะต้องเจอกับความขัดแย้งระหว่างเจเนอเรชัน ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว และความไม่เข้าใจในตัวเอง โดยเฉพาะตัวละครฮาร์ทที่ต้องมีมิติของการเป็นคนหูหนวกเพิ่มเข้าไปอีกทำให้ต้องสื่อสารผ่านท่าทางและสายตาเป็นหลัก ซึ่งทั้งคู่ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นซีรีส์เรื่องแรกของพวกเขาที่เปิดกล้องถ่ายทำก็ตาม
ซีรีส์ พระจันทร์มันไก่ Moonlight Chicken กำลังจะออกอากาศเป็นตอนสุดท้ายในวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคมนี้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์คุณภาพอีกเรื่องของ GMMTV ในปีนี้ที่หยิบเอาเรื่องราวของความสัมพันธ์ ความสุข ความเศร้า ความเจ็บปวด และการเติบโตมามัดรวมกันไว้ได้อย่างลงตัว เป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากให้แสงจันทร์ตกกระทบถึง และอยากให้ทุกคนลองเข้าไปชมกันดู
รับชมได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 18.00 น. ทางช่อง GMM25 และ Disney+ Hotstar
ชมตัวอย่าง พระจันทร์มันไก่ Moonlight Chicken ได้ที่นี่:
ภาพ: GMMTV