นอกจากเราจะเป็นฟอลโลเวอร์ของ Monsieur Poppi ‘เมอซิเยอร์ ป๊อปปี้’ หรือ ‘ป๊อป-ประเทศ ทรงเที่ยง’ ติดตามผลงานภาพถ่ายและงานวาดของเขาในอินสตาแกรมมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว เราและศิลปินท่านนี้ก็มีความ ‘ใกล้ตัว’ เกินกว่าที่คิด ทันทีที่รู้ว่าเขาเดินทางมาถึงเมืองไทย เราจึงจีบเขามาพูดคุยกับ THE STANDARD

     ประเทศเป็นนักวาดภาพประกอบชาวไทยอายุ 34 ปี ซึ่งจบด้านการออกแบบพัสตราภรณ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาเคยมีประสบการณ์การทำงานในวงการแฟชั่น และด้านกราฟิกดีไซน์ในแวดวงสิ่งพิมพ์ และเคยทำโปรเจกต์ให้กับ Stubbs And Wootton, Michael Bastian รวมถึงวาดภาพให้กับแบรนด์แฟชั่น Maison Kitsuné, Kamakura Shirts Thailand อีกด้วย

     หลังจากตัดสินใจอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กอย่างถาวรมาตั้งแต่ปี 2010 ครั้งนี้ป๊อปบิน 17 ชั่วโมงยาวๆ กลับมาที่เมืองไทย นอกจากจะเป็นการกลับมาเยี่ยมครอบครัวและเพื่อนแบบกิจวัตรปกติแล้ว ครั้งนี้เขายังจัดนิทรรศการสุดพิเศษเป็นครั้งแรกในชีวิตในชื่อ ‘New York Minute’

     นิวยอร์กเกอร์มาจับเข่าคุยกับเราทั้งที เราจึงชวนเขาคุยด้วยความใคร่รู้ตั้งแต่เรื่องงานของเขาเอง ชีวิตความเป็นอยู่ บรรยากาศของเมือง หรือแม้แต่โดนัลด์ ทรัมป์!

     “บอกตามตรงว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำ เราเคยคิด แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำคอนเซปต์อะไร นำเสนออย่างไร แต่ล่าสุดคือเมื่อสักเดือนที่แล้ว พอเพื่อนรู้ว่าเราจะกลับมาเมืองไทยก็ลองชวนดู บอกว่ามีพื้นที่อยู่ อยากให้เรามาลองสนุกกัน ก็เลยคิดว่าอยู่นิวยอร์กมาตั้ง 8 ปี เราก็มีรูปภาพที่ถ่ายเก็บไว้เยอะ แต่จะโชว์ภาพถ่ายเฉยๆ มันก็จะดูง่ายไป ใครๆ ก็ถ่าย ใครๆ ก็ทำนิทรรศการภาพถ่ายกัน แต่เราชอบวาดรูป เราก็เลยใส่งานวาดของตัวเองเข้าไปผสมกัน”

 

 

My Minute ≠ Your Minute

     นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเขาที่ชื่อว่า ‘New York Minute’ นั้นก็แปลได้ตรงตัวว่าเป็นช่วงเวลาหนึ่งนาทีของคนนิวยอร์ก ที่หนึ่งนาทีของพวกเขาไม่เท่ากับใครเลย

     “คนในนิวยอร์กทำอะไรเยอะมากในหนึ่งนาที พวกเขาจะเดินเร็วมาก เราก็เป็นคนเดินเร็วอยู่แล้วนะ แต่ที่นิวยอร์กนั้นจะดูเร่งรีบไปหมด เดินเร็วไปสั่งกาแฟ และภายในหนึ่งนาทีต้องได้กาแฟ ดูไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไร แรกๆ ที่ไปก็ไม่ชินนะจะชอบคิดว่าพวกเขา ‘เป็นบ้าหรือเปล่าวะ’ แต่คนไทยติดชิลล์ เลตสักนิดสักหน่อยก็ไม่น่าเกลียด

     แต่กับนิวยอร์กเกอร์ หนึ่งนาทีนั้นสำคัญและเร็วมาก มีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ในความคิดของเราเลยอยากนำเสนอกิจกรรมที่หลากหลายของคนนิวยอร์กในหนึ่งภาพ เพื่อนำเสนอหนึ่งนาทีที่แตกต่างในแบบที่เราคิด”

“ในหนึ่งนาทีมีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เราเลยอยากนำเสนอกิจกรรมที่หลากหลายของคนนิวยอร์กในหนึ่งภาพ เพื่อนำเสนอหนึ่งนาทีที่แตกต่างในแบบที่เราคิด”

 

Too Lazy for Gallery Walking

     “เราเคยทำงานกราฟิก ทำนิตยสารมาก่อน และอีกอย่างเราเป็นคนชอบวาดรูปมาก ชอบวาดรูปเล่นๆ โพสต์ลงในอินสตาแกรม และบังเอิญมีคนสนใจและชักชวนเราไปร่วมงาน ซึ่งตอนนั้นก็คือแบรนด์ Stubbs And Wootton (แบรนด์รองเท้าในสหรัฐอเมริกา) เราชอบรองเท้าของเขาอยู่แล้วเป็นทุนเดิม แล้วก็โชคดีที่เขามีออฟฟิศอยู่ที่นิวยอร์ก ก็เลยรีบตอบตกลงว่า ‘เอาสิ’ ซึ่งงานของเราก็คือการครีเอตเว็บไซต์ วาดงานลงไปในเว็บไซต์เขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้ได้ทำงานทางด้านนี้”

     เราถามป๊อปในเรื่องของไอเดียและแรงบันดาลใจ เพราะลายเส้นน่ารักๆ ที่เรียบง่ายของเขานั้นช่างติดตาและน่ารักมากทีเดียว

     “เราไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจอะไรนะ ไม่ชอบไปแกลเลอรี คือเราขี้เกียจ (หัวเราะ) เราชอบอยู่กับบ้าน เลี้ยงหมา ทำกับข้าว ปลูกต้นไม้มากกว่า แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้ไอเดียใหม่ๆ มาจากสารคดี ตามทีวีหรือแมกกาซีน และเราเป็นคนชอบอ่านบล็อก”

 

 

     การที่ป๊อปไม่ชอบออกไปเดินแกลเลอรี เท่ากับว่านิทรรศการที่เกิดขึ้นนี้จะไม่มีความเป็นงานศิลปะในแกลเลอรีหลงเหลืออยู่เลยหรือไม่? เราถามต่อ

     “เอาจริงๆ พอพูดถึงนิทรรศการ ทุกคนจะชอบคิดว่าต้องไปตามแกลเลอรี มันดูเป็นทางการเกินไป แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่าศิลปะมันต้องเข้าถึงง่ายๆ เราชอบอะไรสนุกๆ อยู่แล้ว และคิดว่าทุกคนก็ควรจะได้เข้าถึงอะไรที่มันสนุกและง่าย เหมือนเอาสินค้าจากร้านไฮแบรนด์มาอยู่ในจตุจักร เราพูดถึงบรรยากาศของมันมากกว่า มันควรจะต้องเป็นมิตรสิ”

“เรารู้สึกว่าอาร์ตมันต้องเข้าถึงง่ายๆ เราชอบอะไรสนุกๆ อยู่แล้ว และคิดว่าทุกคนก็ควรจะได้เข้าถึงอะไรที่มันสนุกและง่าย และควรต้องเป็นมิตร”

 

From Bangkok to New York

     “8 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ เราชอบที่ทุกๆ วันมันไม่เหมือนกันเลย”

     เราถามป๊อปถึงสิ่งที่เขาชอบที่สุดในนิวยอร์ก

     “นิวยอร์กคือโลกหนึ่งที่มีคนทุกเชื้อชาติมาจากทั่วโลก แต่ละวัน แต่ละที่ คนมันหมุนไม่ซ้ำหน้ากันเลย มันคือการได้เรียนรู้โลกทั้งใบโดยไม่ต้องท่องเที่ยว ซึ่งปรับตัวยากมาก ช่วงแรกๆ เรารู้สึกตัวเล็กมาก

     “และในความคิดเรา เราว่าความคล้ายคลึงกันของกรุงเทพฯ กับนิวยอร์กก็คือ ‘ความวุ่นวาย’ มันเหมือนกันเลยนะ ไม่ใช่คล้าย แต่นิวยอร์กมันมีความอิสระ มีความฟรีสปิริตมากกว่า อยากจะทำอะไรก็ทำได้”

 

Trump Era

     “ประเทศมันใหญ่ จะเห็นผลงานมันต้องใช้เวลา”

     ป๊อปใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์กมาถึง 8 ปี ซึ่งในระยะเวลาหนึ่งที่เขาอาศัยอยู่นั้นก็เป็นช่วงเวลาของการผลัดเปลี่ยนผู้นำประเทศ เราจึงอดตั้งคำถามไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นร้อนๆ เรื่องเหตุบ้านการเมืองของประธานาธิบดีที่เป็นที่โจษจันที่สุดในโลกเวลานี้ “แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนผลงานและเร็วมากคือคนเกิดการเหยียดกันอย่างรุนแรงมาก ในนิวยอร์กก็มี แล้วตึกทรัมป์ก็ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก เลยมีการประท้วงกันบ่อยมาก ทำให้ถนนปิดบ่อย ซึ่งเราว่ามันมีผลทางด้านเศรษฐกิจเยอะนะ นักท่องเที่ยวก็หวาดกลัวที่จะเดินทางมา อย่างล่าสุดที่มีการขับรถชนคนในไทม์สแควร์ มันน่ากลัว ใครจะไปคิดว่าถนนที่พลุกพล่านกลางเมืองจะมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น แต่นิวยอร์กก็มีเสน่ห์ของมัน ถึงจะมีผู้นำคนไหนขึ้นมาก็ตาม นิวยอร์กก็ยังเป็นนิวยอร์ก มันไม่เคยเปลี่ยนไป”