อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังสูญเสียแรงงานมากมาย เนื่องจากเหล่าพนักงานที่ ลาออก ต้องการต่อสู้กับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของหลายๆ คนอย่างปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
ในบางกรณีอาจหมายถึงการตัดเงินเดือน แต่เรื่องเล่าของ แซนดี้ อนุราส ผู้ซึ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีกับบริษัทผู้ให้บริการแผงโซลาร์เซลล์อย่าง Sunrun ได้กล่าวว่า บางครั้งค่าตอบแทนที่มหาศาลก็มาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่าย
“ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งหลายมีค่าตอบแทนอันมหาศาล และมันยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้น” เธอบอกกับ CNBC “คุณจะรู้สึกตัวว่าชีวิต (ของคุณ) มันมีอะไรมากกว่าการเพิ่มเงินเดือนของตนเอง และฉันคิดว่าช่วงนี้มีหลายคนที่คิดอย่างนั้น โดยเฉพาะตอนที่บริษัทของพวกเขาวางกำไรไว้เหนือประชาธิปไตย”
ก่อนมาทำงานกับ Sunrun เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอทำงานที่บริษัทท่องเที่ยวสัญชาติอเมริกันอย่าง Expedia เป็นเวลาเกือบ 3 ปี โดยเธอเชื่อว่าการท่องเที่ยวนั้นส่งผลดีต่อคนในสังคม เพราะคนที่เดินทางส่วนใหญ่แล้วจะมีมุมมองที่กว้างขึ้นและเกิดความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นมากขึ้น
แต่การช่วยให้ผู้คนจองโรงแรมได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ทำให้เธอพอใจกับตัวเองมากพอกับเมื่อครั้งยังทำงานที่บริษัท Blokable ซึ่งเป็นบริษัทสร้างที่พักอาศัยในราคาที่ผู้คนสามารถจับต้องได้
เช่นเดียวกับวิศวกรอาวุโส ทอม เมเลนเดซ ที่ทำงานใน Google มากว่า 5 ปี ก่อนจะออกไปทำงานที่ MethaneSAT ที่เป็นบริษัทในเครือขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง Environmental Defense Fund ซึ่งคอยประมวลผลข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อวัดระดับการปล่อยก๊าซมีเทนหรือก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน
“ผมภูมิใจที่ได้ทำงานที่นั่น (Google) โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ผมสนุกกับงานที่ได้ทำ” เขาบอกกับ CNBC แต่เขาเริ่มรู้สึกท้อแท้ “ในท้ายที่สุด มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะรู้สึกว่าคุณทำงานเพียงเพราะเงิน ผมไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น”
“ผมกลัวโลกหลังจากที่เราต้องจากคนเหล่านี้ไป ผมคิดอยู่เสมอว่าจะช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง และการกดคีย์บอร์ดอยู่ที่ Google นั้นมันไม่ใช่สำหรับผม” เขากล่าว
ก่อนเขาจะเข้าทำงานกับ Google เมเลนเดซทำงานกับบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำเกี่ยวกับข้อมูลด้านดาวเทียมอย่าง Skybox Imaging และประสบการณ์นั้นช่วยให้เขาได้งานตอนนี้ แต่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักรบภูมิอากาศ
“ผมไม่ได้โตมาอย่างนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรืออะไรทำนองนั้น ผมแค่ใช้ชีวิตของผมเอง” เขากล่าวกับ CNBC เขาเติบโตมาในชนชั้นแรงงาน ครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขามองว่ากฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องน่ารำคาญที่เพิ่มความซับซ้อนและต้นทุนให้กับธุรกิจ เขาต้องการเปลี่ยนความเข้าใจของคนอย่างเพื่อนสมัยเด็กของเขา
“ผมรู้สึกว่าเราจำเป็นต้อง ‘เปลี่ยน’ ชุดข้อมูลนี้ไปเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้และไม่ต้องกลัวมัน” เขากล่าว
ขณะที่พนักงานเทคโนโลยีหลายรายกำลังตัดสินใจเปลี่ยนงานไปสู่อาชีพที่ต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ช่องทางต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นเพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
อย่างเช่นเว็บไซต์เกี่ยวกับสภาพอากาศอย่าง Climatebase ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 ได้มีผู้ใช้กว่า 600,000 คน และมีลิสต์ตำแหน่งงานมากกว่า 40,000 ตำแหน่ง จากบริษัทเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมกว่า 3,000 แห่ง และจากข้อมูลของผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง อีแวน ไฮนส์ เว็บไซต์ Climatebase ยังมีใบสมัครกว่า 3,000 ใบ เพื่อทุนการศึกษา Fellowship ของบริษัท
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP