ดอยม่อนจองมาง่ายๆ โดยไม่ต้องจอง แค่เดินทางมาติดต่อกับศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง ที่หมู่บ้านชาวมูเซอ เปิดให้ขึ้นเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ดอยม่อนจองตั้งอยู่ที่ ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่มาทางใต้ราว 260 กิโลเมตร หรือ 4 ชั่วโมง ด้วยระยะทางที่ยาวไกล ทำให้ที่นี่ยังคงอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์
เราเริ่มต้นเดินทางด้วยรถกระบะ 4×4 ลัดเลาะตามสันเขาที่เต็มไปด้วยต้นสนมากมาย พี่ปะป้าลูกหาบชาวมูเซอผู้คอยดูแลเราตลอดทริปนี้ได้เล่าถึงอดีตภูเขาที่เคยโล้นเตียนจากการทำไร่เลื่อนลอย และการปลูกฝิ่นในคนรุ่นก่อนๆ จนได้ริเริ่มให้มีการฟื้นฟูป่าด้วยการปลูกต้นสน และจัดหาอาชีพให้ชาวบ้านเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
เพียงเวลาไม่นานจากเส้นทางคลุกฝุ่น ก็ได้เริ่มต้นเส้นทางเดินเท้า พี่ปะป้าพาเราเดินลัดเลาะป่าสน บรรยากาศโดยรอบให้เรารู้สึกถึงความสงบที่หาจากในเมืองไม่ได้เลย การเดินค่อนข้างที่จะสบาย เหมาะกับเทร็กกิ้งมือใหม่ เราใช้เวลาไม่นานก็ถึงเนินหมาหอบ เนินสุดท้ายที่วัดใจสำหรับผู้พิชิตดอยนี้ทุกคน มีใครหอบกันบ้างนะ
หลังจากพักเหนื่อยได้สักพัก ด้วยความหวังดีพี่ปะป้าลูกหาบของเราก็ไล่ให้เราไปเดินจุดชมวิวผาหัวสิงห์ ซึ่งต้องเดินไปประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางนี้วิวดีมากๆ
ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยคือทุ่งหญ้าสีทองสุดตาของเรา แลนด์สเคปที่ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหนก็ดูสวยไปหมด แค่ยกกล้องลั่นชัตเตอร์ออกมาก็มินิมัลมากๆ
Magic Hour จังหวะสำคัญของม่อนจองที่พลาดไม่ได้เลย คือช่วงเวลาที่พระอาทิตย์คล้อยลับฟ้า สะกดทุกสายตาให้จดจ้องความสวยงามที่อยู่ตรงหน้า แค่โมเมนต์สั้นๆ ก็ทำให้เราดื่มด่ำชาร์จพลังให้ตัวเอง ใช้ความสงบทบทวนความคิดในหัวจากความวุ่นวายในเมือง ความสุขง่ายๆ อยู่ต่อหน้าเราแค่นี้แหละ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์