มีการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นกับอัลบั้มใหม่ของแสตมป์ อภิวัชร์

     คือในความเป็นศิลปิน การย่ำอยู่กับความสำเร็จเดิมมันไม่มีความท้าทาย ซึ่งเราจะเห็นได้จากวงดนตรีอย่าง The Beatles, David Bowie ไปจนถึง Blur ที่พยายามสรรสร้างอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน หากมองวงดนตรีในประเทศไทยที่มีอายุเกิน 10 ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะเขียนเพลงแบบเดิมๆ เดินตามความสำเร็จเดิม แบบที่แถวบ้านเรียกคอมฟอร์ตโซน คร่ำครึ โบราณ เลี้ยงหลานอยู่บ้านน่าจะมีคุณค่ามากกว่าทำเพลง อุ๊ปส์!!! แมวพิมพ์

     แต่อัลบั้ม Stampsth ไม่ใช่ มันเป็นการทรานส์ฟอร์มหรือแปลงร่างเพลงของแสตมป์ไปข้างหน้าแบบก้าวกระโดด ถือว่าเป็นก้าวที่ใหญ่มากๆ เลยทีเดียว

     ก้าวกระโดดที่ 1 อัลบั้มนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แสตมป์ได้ คริสโตเฟอร์ ชู (Christopher Chu) มาร่วมเขียนเนื้อด้วย (หนุ่มจีนที่เกิดในญี่ปุ่นและโตในอเมริกา) คอนเซปต์วิธีการเล่าเรื่องยังเป็นแบบของแสตมป์อยู่ คือ มีประชด มีมุมมองที่ไม่เหมือนคนอื่น

Does every devil look like you,

smile like you,

and feel like you?

        –The Devil

     แสตมป์ให้สัมภาษณ์ว่า การออกเสียงภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเขา แต่นี่คือการหลุดออกจากกรอบเดิมๆ อย่างแท้จริง และฟังรวมๆ การออกเสียงของแสตมป์ก็ทำได้ดีด้วย

     ก้าวกระโดดที่ 2 แสตมป์ชอบ Featuring กับชาวบ้าน จะเห็นได้จากงานที่ผ่านมา เขาไปร่วมทำเพลงกับศิลปินมากมาย แต่คราวนี้ถือว่าเป็นการโกอินเตอร์ อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะมีคริสโตเฟอร์ ชู มาร่วมแต่งเพลงด้วยแล้ว แสตมป์ยังร่วมงานกับศิลปินญี่ปุ่นอีกหลายราย รายแรกคือ Depapepe ดูโอกีตาร์ที่เคยมาแสดงคอนเสิร์ตร่วมกัน รายที่ 2 คือ YMCK วงดนตรีที่เคยมาทำเพลงนักเลงคีย์บอร์ด ในชุดที่แล้ว รายที่ 3 คือ P.O.P วงนี้เป็นวงฮิปฮอป ร้องแรปรัวภาษาญี่ปุ่นมันมาก และรายที่ 4 คือ มายู วากิซากะ (Mayu Wakisaka) ศิลปินสาวแนวป๊อป

     นอกจากนี้อัลบั้ม Stampsth ยังรวมยอดฝีมืออย่าง นะ Polycat, ฝ้าย มือเบสวง OverMe กับ Supersup และ อิมเมจ สุธิตา มาร่วมแต่งเพลงด้วย การทำเพลงกับทีมนี้ทำให้เพลงออกมาสดใหม่ มีกรู๊ฟ มีร็อก มีกีตาร์มันๆ บนซินธิไซเซอร์ หากเอาไปเทียบกับอัลบั้มแรกซึ่งเกือบ 10 ปีมาแล้ว จะเห็นพัฒนาการของแสตมป์อย่างชัดเจน

     ก้าวกระโดดที่ 3 อัลบั้มนี้ไม่มีขายในไทย วางขายในรูปแบบซีดีที่ญี่ปุ่นก่อน แล้วต่อด้วยสตรีมมิง หากใครอยากได้ซีดีต้องฝากเพื่อนที่ไปญี่ปุ่นซื้อให้ เพราะยังไงเมืองไทยก็คงไม่ทำออกมาขาย แต่มีข่าวดีว่าจะออกเป็นแผ่นเสียงแทน ซึ่งแฟนเพลงของแสตมป์คงต้องตบตีกันหน่อย เพราะตอนที่เขาทำแผ่นเสียงชุดแรก (รวมชุด 1 กับ 2) ก็ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน และโดนปั่นราคาขึ้นไป 2-3 เท่าในทุกวันนี้

     Stampsth เปิดอัลบั้มด้วยเพลง Don’t You Go ที่เบสตบสะใจมาก เสียงเหมือนปืนกลยิงรัวๆ เป็นการขู่ว่าอย่าไปนะ ต่อด้วย The Modern Man ขึ้นด้วยคีย์บอร์ด คอรัสเพลงนี้ที่ร้องสวนขึ้นมาเพราะมาก มันทำให้เพลงนี้เป็นร็อกมันๆ ท่อนสร้อยตะเบ็งเสียงได้เต็มที่

     The Devil เสียงร้อง กีตาร์ มาพร้อมเครื่องสาย ที่ทำให้ปีศาจที่สวยงามที่สุดปรากฏตัว ถึงจะรู้ว่าเป็นปีศาจ แต่เราก็ไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย BKK NYC เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้ม ชื่อไทยว่า นิราศนิวยอร์ค จังหวะสนุก กีตาร์รัวสวย เมโลดีงาม พอคีย์บอร์ดเติมแทรกเข้ามา มันทำให้เพลงเต็มพอดี Lucky Man มีความหนักหน่วงของกีตาร์อยู่พอสมควร เนื้อเพลงเป็นเรื่องของคนโชคร้ายตลอดกาลที่ได้แฟนดี Everything Is You เพลงนี้ไม่ค่อยเหมือนเพลงของแสตมป์ มีความหวาน เป็นเพลงร้องคู่กับมายู วากิซากะ เปียโนและเชลโลคลอไปอบอุ่นมาก ปิดท้ายด้วย The Beast ที่เอาเพลง สัตว์ประหลาด ไปเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นปนอังกฤษ  

     ผมชอบที่แสตมป์ยังทำเสียงกีตาร์ติ้วๆ แล้วยังมีเสียงแอ๊วๆ ตึ่งโป๊ะ คล้ายตลกคาเฟ่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไปอินเตอร์ได้แบบลงตัว

     ทั้ง 7 เพลงในอัลบั้มสามารถใช้เป็นซิงเกิลได้หมด และนี่อาจจะเป็นก้าวแรกและเป็นอีกก้าวสำคัญของแสตมป์กับการไปต่อในวงการเพลงระดับโลกก็ว่าได้

เพลงแนะนำ: Don’t You Go (1), The Modern Man (2), The Devil (3), BKK NYC (4)

ศิลปิน Stamp

อัลบั้ม Stampsth

สังกัด 123 Records (นึง-ส่อง-ซั่ม เรคคอร์ดส์)