Mitsubishi Motors บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น ประกาศเตรียมยุติการดำเนินธุรกิจในประเทศจีน พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจและปลดพนักงาน ทั้งนี้ ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารและผู้ถือหุ้นได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการประคับประคองสถานการณ์ แต่สภาพตลาดและความต้องการของลูกค้าที่หันมาสนใจกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นทำให้ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการปรับลดขนาดองค์กรเพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ Mitsubishi Motors ในจีนในปี 2019 สามารถปิดยอดขายได้ที่ 134,500 คัน สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ก่อนที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง และในปี 2022 ยอดขายลดลงเหลือ 34,575 คัน ส่วนเดือนมกราคม 2023 มียอดขายอยู่ที่ 1,530 คัน แม้ว่ากลุ่มรถยนต์ที่จำหน่ายจะมีรถยนต์ EV อย่าง Mitsubishi Airtrek ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันกับบริษัทรถยนต์จากจีนอย่าง GAC AION แต่กลับมียอดขายเพียง 515 คันในปีที่ผ่านมา
Mitsubishi Motors ได้ปรับกลยุทธ์การทำการตลาด โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้ประกาศแผนแนะนำและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในสัดส่วน 100% ภายในปี 2035 พร้อมลงทุนมากถึง 1.8 ล้านล้านเยน ในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดทั่วโลกในปี 2030 อีกทั้งยังมุ่งเน้นทำการตลาดแถบอาเซียนมากขึ้น โดยสัปดาห์หน้าเตรียมเปิดตัวรถกระบะเจเนอเรชันใหม่อย่าง Mitsubishi Triton ที่ประเทศไทย และเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคม
การถอนทัพของ Mitsubishi Motors ในประเทศจีน สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดรถยนต์ และส่งผลถึงผู้เล่นรายอื่นที่กำลังเผชิญอยู่ อีกทั้งการมาของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่างๆ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ เช่น Honda และ Nissan ที่มียอดขายลดลงในรอบ 2 ปี ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็ประสบกับสถานการณ์ยอดขายลดลงครั้งแรกในรอบทศวรรษ ถือเป็นความท้าทายของแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นภายใต้การแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาด
อ้างอิง:
