Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One ผลงานลำดับที่ 7 ของแฟรนไชส์ภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ Mission: Impossible ที่ยังคงได้นักแสดงขาลุยอย่าง Tom Cruise กลับมาทำภารกิจสุดท้าทายอีกครั้งในบทบาทของ Ethan Hunt พร้อมด้วย Christopher McQuarrie ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) และ Mission: Impossible – Fallout (2018) กลับมานั่งแท่นผู้กำกับและเขียนบทร่วมอีกครั้ง
โดยภารกิจครั้งนี้ Ethan Hunt และทีม IMF ของเขา จะต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายที่มาในรูปแบบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีความคิดเป็นของตัวเองในชื่อ Entity ซึ่งกำลังวางแผนบางอย่างที่อาจสร้างความเสียหายไปทั่วโลก Ethan จึงต้องหาทางหยุดยั้ง Entity ให้สำเร็จ โดยมีชะตากรรมของผู้คนทั่วโลกเป็นเดิมพัน
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ย้อนกลับไปในปี 2022 เราเพิ่งจะตื่นตะลึงกับภาพของ Tom Cruise และเหล่านักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง Top Gun: Maverick ขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินรบ F/A-18E เพื่อถ่ายทำฉาก Dogfight กันไปได้ไม่นาน ทาง Paramount Pictures ก็ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One ให้เราได้เห็น Tom Cruise ขี่มอเตอร์ไซค์ดึงพสุธากันต่อ จนทำให้เราอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่า ใน MI 7 ตัวเขาเองและผู้กำกับจะมีไม้เด็ดอะไรในการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้อีก เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก็ได้สร้างเพดานของการสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันเสี่ยงตายไว้สูงมากอยู่แล้ว
เมื่อเราได้ชม MI 7 จบ ส่วนตัวผู้เขียนแอบรู้สึกชอบ Mission: Impossible – Fallout (2018) มากกว่า เนื่องจาก MI Fallout ค่อนข้างมีความลงตัวในหลายๆ ด้าน ทั้งฉากแอ็กชันสุดระทึกที่ถูกใส่มาแบบไม่ยั้ง กลวิธีนำเสนอที่แยบยล รวมถึงเนื้อเรื่องที่เข้มข้นชวนติดตามและสร้างเซอร์ไพรส์ให้เราได้เป็นอย่างดี ขณะที่ MI 7 ที่ผู้กำกับและทีมสร้างตัดสินใจแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 พาร์ต เราจึงแอบรู้สึกว่าทีมสร้างดูจะมีความกั๊กอะไรบางอย่างไว้ เพื่อนำไปสานต่อในพาร์ตต่อไปอยู่ประมาณหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม MI 7 ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยเอกลักษณ์มากมายที่แฟนๆ หลงรักอยู่อย่างครบถ้วน ทั้งฉากแอ็กชันสุดตื่นตาที่เราจะได้เห็น Tom Cruise ทุ่มสุดตัวในทุกฉาก ทั้งวิ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ ขับรถยนต์ และต่อยตีกับเหล่าร้ายกันแบบไม่ยั้งมือ หรือฉากแอ็กชันโลดโผนโจนทะยานที่ถือเป็นไฮไลต์ของแฟรนไชส์ชุดนี้ ก็ชวนให้เราลุ้นระทึกชนิดนั่งไม่ติดเก้าอี้ได้ดีเช่นเดิม โดยเฉพาะฉากแอ็กชันบนรถไฟที่ชวนให้เราคิดถึง Mission: Impossible ภาคแรกที่ออกฉายในปี 1996 และการปรากฏตัวอีกครั้งของ Henry Czerny ในบทบาท Kittridge อีกครั้ง ก็น่าจะทำให้แฟนๆ ของ MI หวนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ไปพร้อมกัน
และนอกเหนือจากฉากแอ็กชันสุดเวอร์วังแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่เข้ามาเติมเต็มสีสันให้ MI 7 ดูจะไม่ตึงเครียดเกินไปคือความคอเมดี้ที่ถูกใส่เข้ามาอย่างพอเหมาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป โดยเฉพาะการปรากฏตัวของตัวละครใหม่อย่าง Grace ที่รับบทโดย Hayley Atwell กับความเจ้าเล่ห์เพทุบายและฝีมือการเล่นมายากลอันแพรวพราว จนทำให้สายลับมาดเข้มอย่าง Ethan Hunt ต้องกุมขมับ รวมไปถึง Shea Whigham และ Greg Tarzan Davis ในบทบาทของสองคู่หู Briggs และ Degas ที่แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีบทบาทสำคัญมากนัก แต่ทั้งคู่ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่สร้างเสียงหัวเราะให้เราได้ดีไม่แพ้กัน
ส่วนตัวละครที่เราไม่กล่าวถึงไม่ได้เห็นจะเป็น Pom Klementieff กับบทบาทของ Paris นักฆ่าสาวมาดเข้ม ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวละครแย่งซีนประจำภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นฉากขับรถไล่ล่าสุดระห่ำหรือฉากดวลหมัดกับ Tom Cruise ได้อย่างสูสี รวมไปถึงฉากแอ็กชันอันโดดเด่นอีกหลายฉาก ที่ส่งให้ Paris เป็นตัวละครที่มีฉากจำอยู่ไม่น้อยจริงๆ
ส่วนจุดที่เราชื่นชอบมากที่สุดของภาคนี้คือ เนื้อเรื่องที่ผู้กำกับและทีมสร้างได้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง มาเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง และฉายภาพให้เราเห็นถึงความฉลาดล้ำของ Entity ออกมาได้อย่างน่าสนใจ กับการเรียนรู้บุคลิกของผู้คน ไปจนถึงการคาดเดาและวางแผนการร้ายด้วยอัลกอริทึม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ก็ยิ่งช่วยเชื่อมโยงให้เราสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของ Entity ชัดเจนมากขึ้น และชวนลุ้นกันต่อว่า Ethan Hunt และพรรคพวกจะรับมือกับภัยร้ายครั้งนี้ได้อย่างไร
รวมไปถึงการนำเสนอฉากบทสนทนาอันตึงเครียด ที่แม้ว่าจะมีบางช่วงบางตอนที่เราก็ตามเนื้อหาไม่ทันอยู่บ้าง แต่ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของทีมนักแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น Tom Cruise, Henry Czerny, Esai Morales ในบทตัวร้ายของเรื่องอย่าง Gabriel และ Vanessa Kirby ในบท The White Widow ก็ช่วยเสริมให้บรรยากาศตึงเครียดดูหนักอึ้งมากขึ้น และสัมผัสได้ถึงความอันตรายและไม่น่าไว้วางใจที่ห้อมล้อมอยู่ในตัวละครของพวกเขาได้ดีทีเดียว
โดยรวมแล้วแม้ว่าส่วนตัวผู้เขียนจะแอบชอบ MI Fallout มากกว่า แต่ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One ก็ยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอ็กชันสุดทะเยอทะยานของ Tom Cruise ที่สร้างความตื่นเต้นและลุ้นระทึกให้กับเราได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะเหล่าตัวละครชุดใหม่ที่ถูกนำเสนอมาได้อย่างมีเสน่ห์ ชวนให้เราอยากเอาใจช่วยไม่แพ้ Ethan Hunt และพรรคพวก รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่แม้ผู้กำกับจะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 พาร์ต แต่ภาพยนตร์ก็มีประเด็นที่ถูกคลี่คลายอยู่บ้าง โดยไม่ปล่อยให้ผู้ชมลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ แต่ภาพยนตร์ก็มีการวางเบาะแสใหม่ๆ ทิ้งไว้ เพื่อกระตุ้นให้เราอยากติดตามภารกิจสุดท้าทายของ Ethan Hunt กันต่อ
Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่
ภาพ: United International Pictures Thailand