เมื่อวานนี้คนไทยต่างร่วมแสดงความยินดีกับสาวงามลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย แอน-แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส วัย 22 ปี ที่คว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand 2021 ไปครองได้สำเร็จ นอกจากความสวยงามและการตอบคำถามที่ชาญฉลาดแล้ว เธอคนนี้ยังมาพร้อมกับแพสชันอันแรงกล้าที่ต้องการปูทางให้เยาวชนรุ่นใหม่ๆ ได้ยอมรับค่านิยมเชิงบวกเกี่ยวกับรูปร่าง ซึ่งแอนชิลีทำให้คนไทยรู้จัก Real Size Beauty กันมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นมายด์เซ็ตสำคัญและลึกซึ้ง ในการเป็นกระบอกเสียงที่เรียกร้องให้สังคมเปิดกว้าง ในการยอมรับความหลากหลายในเรื่องรูปร่าง ชาติพันธุ์ และเพศสภาพ ต่อไปนี้คือความรู้สึกและมายด์เซ็ตของผู้หญิงสวยและเก่งในแบบฉบับของตัวเองที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้สวยจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง
“สำหรับฉันแพสชันคือสิ่งที่เติมเต็มให้ชีวิตมีเป้าหมาย และมันยังทำให้รู้สึกร่วมถึงการมีชีวิต เพราะถ้าเราพิจารณาไปถึงแก่นของพฤติกรรมมนุษย์ ความรู้สึกร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และการมีจุดมุ่งหมายในการดำเนินชีวิตก็คือภาวะความเป็นมนุษย์ แพสชันไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ว่าคุณเก่งในเรื่องไหน หรือคุณมีพรสวรรค์ในเรื่องใด แต่มันคือการที่คุณยังลงมือทำมันต่อไป เพราะสิ่งนั้นทำให้ชีวิตของคุณรู้สึกเติมเต็มความต้องการ แพสชันเป็นมากกว่าเรื่องที่คุณสนใจในทุกๆ ลมหายใจเข้า หรือความรู้สึกเวลาคุณตั้งใจทำอะไร แต่มันคือการลงลึกถึงเหตุผลที่มาว่า “ทำไม” เราถึงลงมือทำสิ่งเหล่านั้น มันอาจจะฟังแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ฉันมีแพสชันอย่างจริงจัง ในการดึงพลังความสามารถของแต่ละคนออกมา ซึ่งน่าจะมีที่มาจากการที่ฉันเคยเป็นกัปตันในทีมกีฬามาหลายปี ฉันต้องการปูทางให้กับเยาวชนรุ่นต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการสร้างค่านิยมเชิงบวกเกี่ยวกับรูปร่าง และการยอมรับในความหลากหลายอย่างเท่าเทียม มันคือแพสชันหลักของฉัน
“ฉันไม่ได้มองว่าแพสชันนี้จะเปลี่ยนแปลงได้ในทันทีทันใดแบบวงกว้าง แต่ฉันมองว่ามันจะค่อยๆ เปลี่ยนด้วยการเริ่มจากกลุ่มคนเล็กๆ ที่ค่อยๆ ขยับมุมมอง เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนความอคติให้เป็นความเข้าใจ ฉันคิดว่าแรงกระเพื่อมต่อโลกใบนี้จากแพสชันของฉันจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาลบค่านิยมแบบเดิมและเปิดใจเรียนรู้ค่านิยมใหม่ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้พวกเราทุกคนก้าวเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ไปด้วยกัน
“ฉันเข้าใจบริบทของสังคมดีค่ะว่าฉันไม่ใช่นิยามของคำว่า “นางงามไทยในอุดมคติ” แต่ฉันก็ยังอยากเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ พอพูดถึงฉันก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ ฉันยังคงอยากมีส่วนร่วมในวงการนางงาม และอยากแสดงให้เด็กผู้หญิง โดยเฉพาะเด็กที่กำลังจะโตเป็นสาวว่าพวกเขาสามารถสร้างทางเดินของตัวเองได้ คุณรู้ไหม ถึงคุณจะดูแตกต่าง คุณอาจจะไม่ได้สวยแบบพิมพ์นิยม แต่คุณสามารถที่จะภูมิใจในตัวตนและความแตกต่างของตัวเองได้นะ และนี่ก็คือภารกิจที่ฉันพยายามเข้ามาทำในการประกวดครั้งนี้ มันคือความต้องการที่จะเรียกร้องให้สังคมเปิดกว้าง ในการยอมรับความหลากหลายในเรื่องรูปร่าง ชาติพันธุ์ และเพศสภาพ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทั่วโลกตื่นตัวและยอมรับแล้ว ดังนั้นฉันคิดว่ามันถึงเวลาของประเทศไทยแล้วเช่นกัน
“ฉันเติบโตมาในยุคที่เราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวตนของใคร เราอยากให้เขาเป็นตัวของตัวเอง และในฐานะที่ฉันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนรุ่นนี้ ฉันก็อยากรู้สึกเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเสรีเช่นกัน ฉันแทบจะไม่กล้าคิดเรื่องการประกวด Miss Universe แบบจริงจังเลย มันเป็นเรื่องที่คุณแม่อยากให้ทำมาตลอด แต่ฉันก็กลับมาคิดทบทวนอยู่ในใจลึกๆ ว่า เดี๋ยวนะ…นี่มันคือสิ่งที่ฉันอยากทำเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะฝัน เพราะฉันมีรูปร่างที่แตกต่าง ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะเข้าประกวดด้วยรูปร่างนี้นี่แหละ ถึงมันจะไม่ตรงตามมาตรฐานความงามเอาเสียเลย และเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกๆ คนที่เคยผ่านการต่อสู้เกี่ยวกับปมปัญหาในเรื่องเรือนร่าง ส่งเสียงให้ทุกคนรู้ว่าเราต้องโอบรับความแตกต่างและความหลากหลายของตัวเอง เราจะทำมันสำเร็๋จได้อย่างไร หากตัวเราเองยังไม่ยอมรับมาตรฐานและบรรทัดฐานความงามแบบใหม่เสียเอง ประเทศอื่นๆ เริ่มจะเปิดกว้างและยอมรับเรื่องความหลากหลายในเรื่องเรือนร่างและพัฒนาแนวคิดนี้แบบจริงจังกันแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก ดังนั้นมันเป็นเวลาของพวกเราแล้วค่ะ ฉันอยากให้ทุกคนเข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงนี้กับฉัน จงเป็นตัวของตัวเอง ภูมิใจในความแตกต่าง และเปิดใจยอมรับความหลากหลายทั้งทางรูปร่างและเพศสภาพ และร่วมเดินหน้าเพื่อความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กัน เพราะถึงเวลาของพวกเราแล้ว”
ภาพ: annscottkemmis / Instagram