บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ตั้งเป้าเพิ่มพอร์ต ‘โรงแรม’ อีก 100 แห่งในแดนมังกรช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า ท่ามกลางความพยายามที่จะกระจายการเติบโต โดยเปลี่ยนจากการลงทุน การเป็นเจ้าของ ไปเป็นการรับจ้างบริหารงาน
“เรามีการร่วมทุนครั้งใหม่ในประเทศจีนกับ Funyard Hotels & Resorts ซึ่งหวังว่าจะนำเราไปสู่โรงแรมประมาณ 100 แห่งในอีก 5 ปีข้างหน้าในประเทศจีน” วิลเลียม เอลล์วูด ไฮเนค ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งไมเนอร์ กล่าวกับ Nikkei Asia ในการสัมภาษณ์พิเศษ
ไมเนอร์มีโรงแรมประมาณ 530 แห่ง หรือ 76,000 ห้อง ใน 56 ประเทศและดินแดน โดยวางเป้าที่จะเพิ่มห้องในพอร์ตอีก 13,000 ห้องระหว่างปี 2021-2025 ซึ่งคาดว่า 80% จะเป็นการรับจ้างบริหารงาน
โมเดลการรับจ้างบริหารงานจะทำให้ผู้รับจ้างได้รับค่าคอมมิชชันจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจำนวนเงินนั้นขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของโรงแรมภายใต้การบริหาร นักวิเคราะห์กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงจากรายจ่ายด้านการลงทุน
“เราเผชิญวิกฤตหลายครั้งในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่าวิกฤตครั้งนี้เป็นหนึ่งในวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดที่เราเคยประสบมา” ผู้ก่อตั้งไมเนอร์กล่าวถึงการระบาดของโรคโควิด โดยไมเนอร์ขาดทุนสุทธิ 2.14 หมื่นล้านบาทในปี 2020 ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2021 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท
“เรากำลังชะลอโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อสำรองเงินสดและลดรายจ่าย เพื่อให้แน่ใจว่างบดุลและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง” ขณะเดียวกันไฮเนคกล่าวว่า ประเทศไทยจะเห็นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวรูปตัววีหรือรูปตัวยู ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะรับมืออย่างไร
“เรามองโลกในแง่ดีว่าจะสามารถทำกำไรได้ในปี 2022” โดยไมเนอร์มุ่งเป้าไปที่การเจาะตลาดระดับไฮเอนด์ ด้วยมองว่าตลาดแมสจะยังไม่กลับมาเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนที่ยังปิดประเทศและยังไม่รู้ว่าจะปิดไปอีกนานแค่ไหน
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP