บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการในปี 2562 มีรายได้ทั้งสิ้น 129,889 ล้านบาท เติบโต 65% และมีกำไรทั้งสิ้น 10,698 ล้านบาท เติบโต 137% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท (Group CEO) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญดังกล่าวเป็นผลมาจากการรวมงบการเงินของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังได้กำไรจากการขายเงินลงทุนในโรงแรม 3 แห่งในประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งได้แก่ โรงแรมอนันตรา เวลิ, อนันตรา ดิห์กู และนาลาดู ไพรเวท ไอส์แลนด์
สำหรับปี 2563 เริ่มต้นปีด้วยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวโน้มในการเดินทางและการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ไมเนอร์มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงมาตราการการเพิ่มรายได้และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด
“เราคาดว่าสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นเหตุการณ์เพียงชั่วคราว และธุรกิจที่หลากหลายของไมเนอร์จะช่วยให้บริษัทอยู่ในฐานะที่จะได้รับประโยชน์เมื่อธุรกิจเริ่มมีการฟื้นตัว”
ปัจจุบันไมเนอร์มีธุรกิจ 2 ส่วนหลักคือ โรงแรม โดยมีโรงแรมและเซอร์วิส สวีท ทั้งสิ้น 535 แห่งใน 57 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา คาบสมุทรอินเดีย ยุโรป อเมริกาใต้ และอเมริกาเหนือ ส่วนร้านอาหารถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยมีร้านอาหารกว่า 2,300 สาขาใน 26 ประเทศ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์