บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จนทำให้มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 8.4 พันล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 1.8 พันล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2562
การลดลงดังกล่าวเป็นผลโดยตรงมาจากการดำเนินธุรกิจอย่างจำกัดของทั้งสามธุรกิจของไมเนอร์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนเมษายนและพฤษภาคม) เนื่องจากต้องปิดโรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้าไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ทั่วโลก เป็นการชั่วคราวในเดือนเมษายนและพฤษภาคม รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนของกลุ่มโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของเองและเช่าบริหารลดลง 99% และปรับตัวดีขึ้นเป็นลดลง 89% ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากโรงแรมเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อที่จะปรับตัวกับการปิดให้บริการธุรกิจเหล่านี้
ไมเนอร์ได้ดำเนินมาตรการการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็วและเข็มงวด ซึ่งไมเนอร์สามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 50% ในไตรมาส 2 ปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยในไตรมาส 3 ปี 2563 สำหรับการมุ่งมั่นที่จะเร่งการกลับมาเปิดให้บริการธุรกิจในเครืออีกครั้งเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปรับตัวดีขึ้น และประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการการปิดประเทศลง โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ไมเนอร์มีเงินสดในมือประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท และวงเงินสินเชื่อจำนวน 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมกันแล้วจะเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เมื่อหลายประเทศเริ่มเปิดพรมแดน ด้วยมาตรการการปิดประเทศที่ผ่อนคลายลง และเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไมเนอร์จึงได้กลับมาดำเนินธุรกิจทั่วโลก ณ ปัจจุบัน มากกว่า 70% ของโรงแรมทั้งหมดทั่วโลก และมากกว่า 90% ของร้านอาหารทั้งหมดได้กลับมาเปิดให้บริการ และมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในแต่ละสัปดาห์
ทั้งนี้ ไมเนอร์มีเป้าหมายที่จะกลับมาเปิดให้บริการโรงแรมและร้านอาหารทั้งหมดภายในไตรมาส 4 ปี 2563 และจะผลักดันยอดขายเชิงรุก ในขณะที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กลยุทธ์เฉพาะหน้าของไมเนอร์ โฮเทลส์ คือการมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวภายในประเทศที่แข็งแกร่งในช่วงที่มีการปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ตามด้วยการเพิ่มจำนวนแขกเข้าพักจากนักท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเมื่อประเทศต่างๆ เริ่มเปิดประเทศ และขยายตัวไปยังนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปรับตัวดีขึ้น
ในขณะที่ไมเนอร์ ฟู้ด จะยังคงใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัลและแพลตฟอร์มบริการจัดส่งอาหารเพื่อผลักดันยอดขาย โดยต่อยอดจากแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของยอดขายผ่านทางแพลตฟอร์มดังกล่าวในช่วงการปิดประเทศจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่ยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารภายในร้านอาหารของลูกค้า และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และยังมีการเปิด Cloud Kitchens เข้ามาเป็นช่องทางใหม่ๆ ด้วย
“ไตรมาส 2 เป็นไตรมาสที่ท้าทายที่สุด ไม่เพียงแต่สำหรับไมเนอร์เท่านั้น แต่รวมถึงผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในภาคการบริการและการท่องเที่ยวทั่วโลก เรามีความผิดหวังกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 นี้ แต่บริษัทได้มีการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของเรา” ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าว พร้อมเสริมว่า “บริษัทเชื่อว่าเราได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว และเมื่อสถานการณ์ของโลกดีขึ้น ไมเนอร์มีความมุ่งมั่นที่จะกลับมาสร้างการเติบโตของธุรกิจและกลับมาสร้างผลตอบแทนเชิงบวกให้กับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล