วันนี้ (13 ธันวาคม) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.วิชาญ ปาวัน นายแพทย์เชี่ยวชาญ กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวถึงความคืบหน้าผู้ป่วยโควิด-19 จากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 58 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2 ราย (จังหวัดสิงห์บุรีและเชียงราย) โดย 9 รายใหม่ที่ได้รับรายงานเป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากประเทศเมียนมา ทั้งหมดได้เข้าสู่ระบบกักกันโรค และเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาล ไม่มีการปะปนกับคนในชุมชน ความเสี่ยงในพื้นที่ไม่ได้เพิ่มขึ้น
“จากการทำงานที่ผ่านมาถือว่าเป็นบทเรียนและเป็นข้อดี ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง อสม. และจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่ได้มีมาตรการติดตามกำกับอย่างเข้มงวด ขอเน้นย้ำคนไทยที่ต้องการกลับเข้าประเทศ ต้องเข้ามาอย่างถูกช่องทาง ถูกกฎหมาย เข้าสู่ระบบกักกันโรค หากลักลอบเข้ามาจะมีความผิดตามกฎหมายหลายข้อ โดยเฉพาะ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีข่าวในสื่อโซเชียลมีเดียพบผู้ติดเชื้อจากจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกิจกรรมคอนเสิร์ตที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมานั้น จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเป็นหญิงอายุ 43 ปี เดินทางมาพร้อมกับเพื่อน 7 คนจาก จังหวัดเชียงใหม่โดยเครื่องบินไปที่สนามบินดอนเมือง แล้วนั่งรถตู้ไปที่งานคอนเสิร์ต ซึ่งรายนี้มีโรคประจำตัวอยู่เดิมคือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้เกิดอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกคนรวมเพื่อน 7 คนและคนขับรถตู้ ผลการตรวจครั้งแรกทั้งหมดไม่พบติดเชื้อ ขอความร่วมมือประชาชนอย่าแชร์หรือส่งต่อข่าวปลอม เนื่องจากจะทำให้เกิดความตื่นตระหนก อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ได้
สำหรับการดำเนินการ กรณีที่งานคอนเสิร์ตพบผู้ร่วมงานบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัยและมีการรวมตัวค่อนข้างแออัด จุดเสี่ยงสำคัญคือบริเวณด้านหน้าเวทีที่มีการตะโกนและเบียดเสียดกัน เบื้องต้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้ลงพื้นที่ติดตามและแจ้งเตือนกับผู้จัดงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับผู้เข้าชมคอนเสิร์ตที่ได้ลงทะเบียนผ่าน ‘ไทยชนะ’ ทั้งหมด 30,150 คน จะมีการแจ้งข้อปฏิบัติตัวส่งไปทาง SMS เพื่อให้เกิดความสบายใจ
อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรมต่างๆ สามารถดำเนินการได้ โดยผู้ที่จัดงานจะต้องดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสั่งการอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ สถานที่ต้องมีอากาศถ่ายเทสะดวกไม่แออัดมากเกินไป จัดอุปกรณ์ล้างมือให้ครบถ้วน มีระบบติดตามผู้ที่เข้าร่วมงานได้ และจะต้องมีคนที่สามารถตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ในการกำกับต่างๆ ได้ สำหรับผู้ร่วมงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สำหรับพื้นที่จะต้องมีหน่วยงานที่ลงไปติดตามกำกับดูแล
ด้านความก้าวหน้าวัคซีนโควิด-19 ขณะนี้ทั่วโลกมีวัคซีนหลายชนิดที่อยู่ระหว่างการทดลองระยะ 3 ในมนุษย์ ซึ่งมีความปลอดภัย ส่วนใหญ่มีผลการป้องกันควบคุมโรคกว่าร้อยละ 70 นับว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับประเทศไทย นายกรัฐมนตรี รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายสนับสนุนและนำวัคซีนมาฉีดให้กับคนไทยให้ได้มากที่สุด โดยประเทศไทยได้ดำเนินการรับเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษเพื่อมาผลิตวัคซีนในประเทศ โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด หากเป็นไปตามแผนจะสามารถมีวัคซีนล็อตแรกจำนวน 26 ล้านโดส สำหรับคนไทยกลุ่มแรกจำนวน 13 ล้านคน หากประเทศไทยเราสามารถผลิตได้มากขึ้นก็จะทยอยฉีดให้กับประชาชนต่อไป
ด้าน นพ.วิชาญ กล่าวเกี่ยวกับประเด็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนโรคร่วมกันระหว่างทีมกรมควบคุมโรคและสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครอย่างละเอียด ได้ข้อสรุปว่าเป็นการติดเชื้อในสถานกักตัวที่รัฐกำหนด Alternative State Quarantine ไม่ใช่การติดเชื้อในโรงพยาบาล และเป็นการติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำร่วมกัน อยู่ในวงจำกัดไม่กระจายไปวงอื่น
ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 6 โอกาสแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นค่อนข้างน้อย เนื่องจากได้กักกันตัวเองไว้ตั้งแต่ช่วงต้น
ส่วนคอนโดมิเนียมที่ผู้ติดเชื้อรายที่ 6 พักอาศัย ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดโดยละเอียด พบว่าไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น และอยู่ในคอนโดมิเนียมระยะเวลาสั้นๆ ช่วงระหว่างรอผลการตรวจเชื้อ ทางคอนโดมิเนียมได้มีการทำความสะอาดลิฟต์ โถงทางเดิน และห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมดังกล่าวถือว่าไม่มีความเสี่ยง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการกักตัว
ส่วนผู้ติดเชื้ออายุ 70 ปีที่ลักลอบเดินทางมาจากประเทศเมียนมา ผ่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2563 มีผู้ป่วยรายใหม่ 17 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 8 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 4,209 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,462 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,747 ราย เข้าสถานที่กักกัน 1,216 ราย หายป่วยสะสม 3,923 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 226 ราย และเสียชีวิตสะสม 60 ราย ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกันตามระบบ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย ปากีสถาน 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย บาเรนห์ 1 ราย และเมียนมา 9 ราย แบ่งเป็นคนไทย 13 ราย และคนต่างชาติ 4 ราย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาตามระบบแล้ว
ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศ ทั่วโลกยังคงมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 635,548 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 72,103,223 ราย ซึ่งคาดจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจมากกว่าที่ได้รับรายงานอยู่มาก โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 16.5 ล้านราย อินเดีย 9.8 ล้านราย บราซิล 6.8 ล้านราย รัสเซีย 2.6 ล้านราย ฝรั่งเศส 2.3 ล้านราย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า