วันนี้ (14 เมษายน) นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นพนักงานขับรถประจำทางของ ขสมก. สาย 140 ระบุว่า กรณีดังกล่าวพบว่าผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่คนเดียว ก่อนเสียชีวิตได้มีการไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนร่วม 10 คน โดยในกลุ่มนี้ตรวจพบโควิด-19 ในเวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 7 คน
ส่วนอีกกลุ่มเป็นเพื่อนในที่ทำงานของ ขสมก. ประกอบด้วย กระเป๋ารถเมล์ และพนักงานขับรถที่อยู่ในเวรรอบเดียวกัน โดยรวมบุคคลที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 18 คน ตามข้อมูลการสอบสวนโรคจากทีมแพทย์ที่ดูแลเคสดังกล่าว
ส่วนรายละเอียดของผู้เสียชีวิตพบว่า ผู้เสียชีวิตป่วยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 โดยในวันที่ 26 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2563 ยังมาทำงานในบางวัน
จนกระทั่งป่วยหนักและต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการไข้ ไอ ถ่ายเหลว จนต้องมีการเก็บตัวอย่างเสมหะตรวจพิสูจน์ มีโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจโต มีประวัติสังสรรค์ ดื่มสุรา ก่อนจะรู้ผลว่าติดเชื้อจึงให้มานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในวันที่ 3 เมษายน และรักษาตัวโดยมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ก่อนเสียชีวิตในช่วงค่ำวันที่ 12 เมษายน
นอกจากนี้ นายแพทย์อนุพงศ์ ยังได้กล่าวถึงความเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้โดยสารเสี่ยงติดโรคจากผู้เสียชีวิต โดยเบื้องต้น สธ. ได้มีการเชิญชวนประชาชนที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับเที่ยวการเดินรถที่ผู้ป่วยเสียชีวิตรับหน้าที่ขับ เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19
“กรณีผู้โดยสารที่อาจเกี่ยวข้องเป็นผู้โดยสารที่นั่งเที่ยวเดียวกันกับผู้เสียชีวิตขับ เฉพาะในกะที่เข้าเวร แต่ถ้าถามว่าผู้โดยสารเสี่ยงขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้โดยสารได้นั่งใกล้ชิดกับคนขับแค่ไหน แต่ถ้าผู้โดยสารอยู่ใกล้ ในระยะเวลาที่นานพอสมควร ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงน้อย แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในระยะเวลาที่นานก็ไม่ถือว่ามีความเสี่ยง ซึ่งต่างจากกลุ่มที่ไปสังสรรค์ด้วยกันที่ถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูง เพราะตรวจเจอโรคแล้ว 7 คน ส่วนผลการตรวจกลุ่มผู้ร่วมงานทั้ง 9 คน พบว่าไม่มีใครติดเชื้อเลย” นายแพทย์อนุพงศ์ กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
