วันนี้ (4 กรกฎาคม) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ที่ถูกเลิกจ้าง โดยระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความห่วงใยลูกจ้าง และมีคำสั่งให้กระทรวงแรงงานเข้าไปดูแลช่วยเหลือให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนได้ขานรับข้อสั่งการดังกล่าว และให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานตรวจสอบและเร่งให้ความช่วยเหลือในทันที
โดยจากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 พบว่า บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 154 ซอยลาดพร้าว 107 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ประกอบกิจการประเภทผลิตรายการโทรทัศน์ ปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 130 คน เป็นชาย 70 คน และหญิง 60 คน ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งเลิกจ้างพนักงานจำนวน 89 คน เป็นลูกจ้างรายเดือนทั้งหมด ให้มีผลการเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา สาเหตุการเลิกจ้างเนื่องจากบริษัทฯ ขาดทุนสะสมมาโดยตลอด และในวันนี้ลูกจ้างได้รวมตัวกันเพื่อมายื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้าน บุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้รับมอบหมายจากสุชาติให้ลงพื้นที่มาเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจประเด็นดังกล่าวเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ลูกจ้างบริษัท เจ เอส แอล โกบอล มีเดีย จำกัด ที่มายื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้ส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจงอำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้าง ได้แก่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานรับคำร้อง (คร.7) สำนักงานประกันสังคมชี้แจงขั้นตอนการขึ้นทะเบียนขอรับเงินประกันการว่างงาน กรมการจัดหางานมาตั้งโต๊ะรับสมัครงาน โดยมีตำแหน่งงานว่างจากสถานประกอบกิจการต่างๆ ที่มีความใกล้เคียงกับตำแหน่งงานเดิม เช่น นักโฆษณา นักออกแบบเสื้อผ้า ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผู้จัดการฝ่ายบุคคล พนักงานขับรถ เป็นต้น รวมจำนวน 72 อัตรา
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งงานว่างที่ลูกจ้างสามารถสมัครด้วยตนเองที่เว็บไซต์ไทยมีงานทำ https://smartjob.doe.go.th ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งงาน 161,895 อัตรา ไว้ให้บริการ โดยพนักงานของบริษัทฯ สามารถเลือกสมัครงานทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องเดินทาง ซึ่งรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย และกรมพัฒนาฝีมือแรงงานแนะนำหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะฝีมือตามความประสงค์ของลูกจ้าง เพื่อให้ลูกจ้างได้สมัครงานและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นด้วย