เมื่อวานนี้ (29 มีนาคม) ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อหลายสำนักรายงานว่า มีชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยงจำนวนมากหลบหนีข้ามแดนจากฝั่งเมียนมามายังฝั่งไทย เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ธานียืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ในเมียนมาและบริเวณแนวชายแดนอย่างใกล้ชิดมาระยะหนึ่งแล้ว และได้มีการประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนโยบายต่อกลุ่มผู้หลบหนีเข้ามาในไทยนั้น ขอให้มั่นใจว่าไทยมีประสบการณ์ในการรับมือกับกลุ่มผู้อพยพเข้าไทยด้วยเหตุผลต่างๆ จากประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างยาวนาน และที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่มต่างๆ ที่หนีภัยการสู้รบหรือสถานการณ์ความไม่สงบจากประเทศเพื่อนบ้านตามหลักมนุษยธรรมและหลักสากลระหว่างประเทศมาโดยตลอด
สำหรับความห่วงกังวลหากจะมีผู้หนีภัยข้ามมายังฝั่งไทยเป็นจำนวนมากจากสถานการณ์ในขณะนี้นั้น เชื่อว่าฝ่ายความมั่งคงและจังหวัดตามแนวชายแดนได้มีการเตรียมพร้อม ทั้งแนวปฏิบัติและสถานที่รองรับไว้แล้ว รวมทั้งมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นแนวปฏิบัติที่มีมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงที่เริ่มการแพร่ระบาด
เกี่ยวกับรายงานข่าวเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ซึ่งอ้างว่าชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยงที่หนีภัยความไม่สงบมายังประเทศไทยถูกบังคับส่งกลับไปยังเมียนมา ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยรายงานข่าวดังกล่าวอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่เป็นทางการเพียงช่องทางเดียว โดยไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวของทางการในพื้นที่ ซึ่งต่างยืนยันว่าข่าวการผลักดันส่งชาวเมียนมากลับประเทศนั้นไม่เป็นความจริง แต่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันที่จะให้การดูแลผู้ที่ข้ามชายแดนมาอยู่ฝั่งไทยแล้ว และยังคงประเมินสถานการณ์และความต้องการในพื้นที่ต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า