นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศกล่าวขอบคุณนานาชาติอย่างเป็นทางการที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือภารกิจค้นหาและกู้ชีพ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
โดยเปิดเผยว่าตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เมื่อต่างชาติได้รับทราบข้อมูลข่าวสารก็มีตัวแทนทั้งจากรัฐบาลและบริษัทเอกชนจำนวนกว่า 20 ประเทศติดต่อเข้ามาเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนด้านอุปกรณ์ บุคลากร และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มากมาย ซึ่งไทยรับการช่วยเหลือจากต่างชาติจริงๆ รวม 7 ประเทศหลักๆ ถือว่าเป็นภาพแห่งความร่วมมือที่ไม่ใช่ในระดับภูมิภาค แต่ในระดับโลกก็ว่าได้
เหตุผลหนึ่งที่ต่างชาติพร้อมให้การช่วยเหลือและสนับสนุนภารกิจในครั้งนี้เป็นเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ต่างชาติให้การยอมรับและให้ความสำคัญ แสดงถึงมิตรภาพอันดี
และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นานาชาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการเข้าไปเจอทั้ง 13 คนเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์ เนื่องจากการเจอตัวเด็กนั้นเป็นเพราะนักดำน้ำชาวต่างชาติดำนำ้เข้าไปจนเชือกหมด จึงต้องโผล่หน้าขึ้นจากน้ำ และทำให้เจอทั้ง 13 คน ซึ่งเรื่องราวการพบตัวเด็กนี้ หนังสือพิมพ์ The New York Times ก็นำไปลงและเสนอข่าวประเด็นนี้ด้วย
นอกจากนี้ในมุมมองของต่างชาติยังให้ความสนใจในเรื่องการเอาตัวรอดและการใช้ชีวิตภายในถ้ำของทั้ง 13 คน ทั้งเรื่องที่โค้ชเอกสอนให้น้องทั้ง 12 คนนั่งสมาธิและดื่มน้ำที่หยดลงมาจากผนังถ้ำ
รวมถึงปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทั้งการค้นหา ช่วยเหลือ และวิธีการนำออกมา โดยทั้งหมดต้องต่อสู้กับสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศที่ไม่อำนวย ซึ่งนานาชาติให้การยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นผู้นำปฏิบัติการตัวจริง
นอกจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในถ้ำหลวง ต่างชาติยังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกบริเวณโดยรอบ ทั้งเรื่องของจิตอาสาอย่างการซักผ้าฟรี ทำอาหารแจก หรือคอยช่วยเหลือสนับสนุนในด้านอื่น
และชาวไร่ชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากถ้ำ ซึ่งถือว่าได้รับความเดือดร้อน แต่ทุกคนกลับยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งต่างชาติมองว่าเรื่องราวเหล่านี้หาได้ยากและไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ ‘ไทยแลนด์’
ส่วนการตอบแทนที่ประเทศไทยจะมอบให้ต่างชาติที่ให้ความช่วยเหลือนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศจะนำไปหารือและกำหนดวันที่แน่ชัด อาจจะเป็นการเลี้ยงขอบคุณหรือมอบของขวัญให้เป็นที่ระลึก