วันนี้ (8 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 14.00 น. พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปยังสนามฝึกซ้อมสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เพื่อให้กำลังใจทีมแบดมินตันไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงกว่าเดิม ส่งผลให้นักกีฬาได้กลับมาฝึกซ้อมร่วมกันอย่างจริงจังอีกครั้ง
โดยพิพัฒน์ยอมรับว่ากีฬาแบดมินตันของประเทศไทยนั้นสามารถสร้างผลงานจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งได้รับเหรียญทองจากการเเข่งขันในระดับนานาชาติอย่างมากมาย และที่สำคัญในปัจจุบันประเทศไทยมีนักแบดมินตันในรุ่นคู่ผสมที่อยู่อันดับ 3 ของโลก และรุ่นหญิงเดี่ยว อันดับ 5 ของโลก
พิพัฒน์ยังได้ชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่เสียสละเวลาและความสุขในช่วงชีวิตวัยเด็กของตนเอง เพราะการทุ่มเทฝึกซ้อมของนักกีฬานั้นจะต้องอยู่ในกฎเกณฑ์และระเบียบวินัยที่ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
ด้าน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ ย้ำว่าทางสมาคมฯ ดำเนินการฝึกซ้อมและเตรียมจัดแข่งขันตามคู่มือที่ทางภาครัฐกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมผลักดันนักแบดมินตันไทยอย่างเต็มที่ให้คว้าโควตาไปโอลิมปิกปีหน้าเพิ่มอีก 2 ที่นั่งจากชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว ประเภทละ 1 คน จากที่ได้สิทธิ์ไปโตเกียวเกมส์แน่นอนแล้ว 6 คน
“จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การแข่งขันแบดมินตันรายการต่างๆ ถูกยกเลิกทั้งหมด นับตั้งแต่รายการสุดท้ายคือออลอิงแลนด์ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยสหพันธ์แบดมินตันโลกกำหนดจะเริ่มทำการแข่งขันอีกครั้งในต้นเดือนกันยายนนี้ที่ไต้หวัน และหลังจากนั้นจนถึงสิ้นปีจะมีรายการแข่งขันติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ได้ให้นักกีฬาฝึกซ้อมที่บ้านผ่านการควบคุมของผู้ฝึกสอนทางออนไลน์ จนกระทั่งรัฐบาลประกาศให้สนามแบดมินตันเปิดดำเนินการได้ นักกีฬาจึงได้กลับมารวมตัวฝึกซ้อมเต็มที่อีกครั้ง ซึ่งสมาคมฯ ได้ดำเนินการฝึกซ้อมและเตรียมจัดการแข่งขันตามคู่มือจัดการแข่งขันที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องทุกคน
“สำหรับการแข่งขันภายในประเทศ สมาคมฯ เตรียมที่จะจัดการแข่งขันแบดมินตัน โตโยต้า เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 4-8 สิงหาคมนี้ และการแข่งขันแบดมินตัน โตโยต้า ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 9-13 สิงหาคม ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ
“เป้าหมายใหญ่สำหรับสมาคมฯ นับจากนี้ไปคือการคว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ปีหน้า เพื่อสร้างความสุขให้แก่แฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ และจนถึงขณะนี้การคัดเลือกนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมโอลิมปิกยังไม่จบสิ้น แต่นักกีฬาแบดมินตันไทยผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโอลิมปิกแน่นอนแล้ว 6 คน จากชายเดี่ยว 1 คน กันตภณ หวังเจริญ, หญิงเดี่ยว 1 คน รัชนก อินทนนท์, หญิงคู่ 2 คน รวินดา ประจงใจ และจงกลพรรณ กิตติธารากุล, คู่ผสม 2 คน เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย โดยสมาคมฯ พร้อมที่จะผลักดันนักกีฬาให้ผ่านการคัดเลือกเพิ่มเติมอีก 2 คนจากชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยวประเภทละ 1 คน
“นอกจากนี้จากการประกาศเลิกเล่นของ หลิน ตัน สุดยอดนักตบลูกขนไก่ของโลกชาวจีน ถือเป็นสัญญาณที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของแบดมินตันชายเดี่ยว ซึ่งกันตภณ หวังเจริญ และกุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือต่อไป” คุณหญิงปัทมากล่าวในตอนท้าย
ขณะที่ เร็กซี ไมนากี โค้ชชาวอินโดนีเซีย หัวหน้าทีมประธานเทคนิคและหัวหน้าผู้ฝึกสอนแบดมินตันทีมชาติไทย ยอมรับว่าสถานการณ์ของการแข่งขันทั่วโลกยังไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของการเดินทางระหว่างประเทศและมาตรการกักตัวหลังจากที่เดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศ ทำให้เวลานี้โค้ชได้ทำการโฟกัสไปที่การสร้างความคุ้นเคยกับการแข่งขันแบดมินตันให้กับนักกีฬาไทยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
