วันนี้ (6 ธันวาคม) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ อาคารรัชดาวัน มีการเปิดตัว มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยมีแกนนำพรรค ได้แก่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, วิรัช รัตนเศรษฐ, ฐานิสร์ เทียนทอง, ไพบูลย์ นิติตะวัน, สันติ พร้อมพัฒน์ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน เข้าร่วม
พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ก็เป็นโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะต้อนรับคุณมิ่งขวัญเข้ามาอยู่ในพรรค ขอแสดงความยินดีกับคุณมิ่งขวัญ และพรรคขอแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย เพื่อที่จะช่วยกันทำให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดีขึ้น เป็นความมุ่งหมายของพรรค ขอเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคทุกคนต้อนรับคุณมิ่งขวัญด้วยความยินดียิ่ง
มิ่งขวัญเริ่มต้นการแถลงข่าวโดยให้สื่อมวลชนตั้งคำถามในเรื่องที่สงสัยถึงการย้ายมาเข้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมตอบคำถามตอนหนึ่งว่า ผมให้เครดิตกับ พล.อ. ประวิตร ท่านให้เกียรติผมในการเชิญผม บอกว่าวันนี้มีปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ผมว่าคนไทยทุกคนรู้ดีว่ามีปัญหาอย่างไร หลายปีที่เราต้องทนทุกข์ทรมาน ท่านบอกว่า มิ่งขวัญ มาช่วยผมแก้ปัญหาเศรษฐกิจหน่อย จึงเปิดใจคุยกับท่าน และถามว่าถ้าตนเองเข้ามาจะให้อยู่ตรงไหน ท่านก็บอกว่าให้มาเติมเต็มด้านเศรษฐกิจ
มิ่งขวัญกล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ที่พรรคนี้แล้ว และท่านก็ไม่เคยอยู่ เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนี้
มิ่งขวัญกล่าวอีกว่า ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ พล.อ. ประยุทธ์โดยตรง แต่ตลอด 3 ปีครึ่งที่อภิปราย เพราะมีจุดอยู่ 3 จุด หนึ่ง ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไม่สำเร็จ
สอง ท่านเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เศรษฐกิจก็ไม่สำเร็จ สาม ท่านเป็นหัวหน้า ศบค. ก่อนปิดศูนย์ฯ ตัวเลขของคนไทยที่ตาย 2 หมื่นกว่าศพ ผมอภิปราย ท่านสังเกตไหมว่า ผมอภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ คนเดียวโดดๆ ผมก็ต้องอภิปรายท่าน
“ผมคิดอะไรเหรอ ผมไม่รักษาคำพูดเหรอ คำว่าตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด ผมอยากพูดประเด็นนี้ให้ชัด ผมเคยเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ช่วงสั้นๆ ที่ประชุมพรรคเราก็ถามกัน 6 คะแนนไปอยู่ไหนก็จะได้เป็นรัฐบาล และมติก็คือไม่ร่วมรัฐบาล เวลาท่านตัดมาออกข่าว ผมพูดจริงไหม จริง แต่ผมก็บอกว่า ผมไม่สามารถร่วมอุดมการณ์ได้ ตอนนั้น พล.อ. ประยุทธ์ ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ คนเดียว ถ้า 6 คน เขาจะแปรพักตร์ ผมก็ยืนยันว่าผมอยู่ที่เดิม ผมก็อภิปรายมาอย่างต่อเนื่อง 3 ปีกว่า และผมก็ยื่นใบลาออก ผมขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกผม ผมยื่นใบลาออกแต่จะไม่ยุติบทบาททางการเมือง ผมขอยืนยันต่อหน้าสื่อมวลชนและคนไทยทั้งประเทศ ผมขอยืนยันว่าการมาอยู่ตรงนี้ไม่มีการเจรจาเงินทองแม้แต่บาทเดียว แล้วอะไรที่ทำให้ผมตัดสินใจ
“หนึ่ง ประชาชนเดือดร้อนมาช่วยหน่อย ผมมาตรงนี้ผมรู้ ถ้าไม่ทำความเข้าใจ พวกท่านด่าผมแน่นอน ผมไม่ได้ประดิษฐ์วาทกรรม ผมเอาตัวตนมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ”
มิ่งขวัญกล่าวว่า ส่วนตัวจะไม่มีตำแหน่งในกรรมการบริหารพรรค พร้อมกล่าวอีกว่าตนเองจะต้องออกดีเบตในสงครามการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ และ พล.อ. ประวิตรได้เสนอชื่อตนเองให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะต้องเสนอต่อที่ประชุมพรรคก่อน มิ่งขวัญยังกล่าวว่า “ผมกราบขอบพระคุณท่านครับ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อุดมการณ์ที่เคยบอกว่าไม่ตรงกันคือตัว พล.อ. ประยุทธ์ใช่หรือไม่ มิ่งขวัญกล่าวว่า ใช่ครับ พร้อมกล่าวว่าอยากให้ผู้สื่อข่าวได้ไปย้อนดูอาร์ไคฟ์ที่เคยให้สัมภาษณ์ ที่บอกว่าฝากเรียน พล.อ. ประยุทธ์ ผมไม่สามารถร่วมอุดมการณ์ท่านได้
ขณะที่ พล.อ. ประวิตรกล่าวระหว่างการเปิดตัวมิ่งขวัญตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐแล้ว
พล.อ. ประวิตรกล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า “ก็ พล.อ. ประยุทธ์ออกไปแล้ว ก็คุณมิ่งขวัญเขาบอกว่าออกไปแล้วไง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกมิ่งขวัญคือการเลือกคนมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ แทน พล.อ. ประยุทธ์ใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นคนละเรื่องกัน ถามแบบนี้ก็เป็นการทะเลาะสิ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ชื่อของมิ่งขวัญคือหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่รู้ อยู่ระหว่างการพิจารณา และเป็นเรื่องของสมาชิกพรรคในการพิจารณา ไม่ใช่ผม ผมทำอะไรไม่ได้หรอก ผมก็เป็นสมาชิกพรรคเหมือนกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากวันนั้นที่ประชุมไม่เห็นด้วยในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป มิ่งขวัญกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดไปถึงอนาคต
ขณะเดียวกัน พล.อ. ประวิตรระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมอะไรเลย คุณก็ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ไม่ได้นะ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคต ถ้าพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติจับมือกัน พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ถ้าไม่ได้เลย อย่าๆ ถ้าก็ถ้าได้หมด
ในช่วงท้ายเกิดการชุลมุนในการตอบคำถามเกี่ยวกับ พล.อ. ประยุทธ์ สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวขอให้พูดแต่เรื่องที่จะทำเพื่อประชาชนดีกว่า และจบการแถลงข่าวเปิดตัว