มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ นักแสดงนำจากซีรีส์สุดฮิตของ Netflix อย่าง Stranger Things ซึ่งเธอรับบทเป็น อีเลฟเวน สาวน้อยพลังจิต กำลังจะได้ค่าตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 3.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการถ่ายทำซีซัน 3 ของซีรีส์ดังกล่าว
ทั้งนี้เพราะกระแสความนิยมของซีรีส์ที่ฮิตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่านักแสดงมีการเจรจาปรับค่าตัวในสัญญา โดยนักแสดงนำของซีรีส์ทั้งหมดได้รับการปรับค่าตัวให้สูงขึ้น แต่มิลลี่จะเป็นนักแสดงที่ได้ค่าตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในกลุ่ม
ตัวแทนของมิลลี่ได้ต่อรองให้ค่าตัวต่อการถ่ายทำหนึ่งตอนอยู่ที่ราว 3.5 แสนเหรียญสหรัฐ จากเดิมในสัญญาที่ระบุว่า 2.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ต่อตอน) ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอจะทำเงินจากซีซัน 3 ที่มีทั้งหมด 9 ตอน ประมาณ 3.15 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทำให้มิลลี่กลายเป็นนักแสดงที่มีค่าตัวสูสีกับดารารุ่นใหญ่ในซีรีส์ทั้ง วิโนนา ไรเดอร์ (รับบท จอยซ์ บายเออร์ส) และเดวิด ฮาร์เบอร์ (รับบท ฮอปเปอร์) ที่มีรายงานว่าได้ค่าตัวประมาณ 3-3.5 แสนเหรียญสหรัฐต่อตอน ในการถ่ายทำซีซัน 3 ของ Stranger Things
ส่วนนักแสดงนำเด็กคนอื่นๆ ก็ได้รับการปรับค่าตัวขึ้นเช่นเดียวกันทั้ง โนอาห์ ชแนปป์ (รับบท วิล บายเออร์ส), เคเลบ แม็กลาฟลิน (รับบท ลูคัส ซินแคลร์), กาเตน มาตาราซโซ (รับบท ดัสติน เฮนเดอร์สัน) และฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด (รับบท ไมค์ วีเลอร์) ที่จะได้ค่าตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 2-2.5 แสนเหรียญสหรัฐต่อตอนในซีซัน 3
มีข่าวหนาหูว่าพ่อแม่ของมิลลี่อาจอยู่เบื้องหลังการขึ้นค่าตัวครั้งยิ่งใหญ่นี้ เพราะพวกเขาเคยผ่านการล้มละลายและต้องขายสินทรัพย์เพื่อให้ลูกสาวได้เข้ามาอยู่ในวงการ ทำให้มีแฟนคลับบางกลุ่มกังวลว่ามิลลี่จะไม่ได้รับค่าตัวจากการทำงานของตัวเองทั้งหมด
แม้ในสหรัฐอเมริกาเองจะมีกฎหมาย Coogan Accounts ที่อนุญาตให้ผู้มีสิทธิ์ดูแลรายได้ให้กับนักแสดง แบ่งเงินบางส่วนให้กับครอบครัว และเก็บบางส่วนให้กับนักแสดงเมื่อมีอายุถึง 18 ปี แต่กฎหมายดังกล่าวใช้กับในบางรัฐเท่านั้น (แคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์ก, ลุยเซียนา และนิวเม็กซิโก) ซึ่งกฎหมาย Coogan Accounts จะถูกใช้ในกรณีของมิลลี่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่นักแสดงเซ็นสัญญาครั้งแรก
Stranger Things ซีซัน 3 ยังไม่มีกำหนดออกอากาศที่แน่นอน แต่สามารถรับชมซีซัน 1 และ 2 ระหว่างรอได้ทาง Netflix
อ้างอิง: