“Where y’all, MILLI talk”
ปังไปถึงแคลิฟอร์เนีย! สำหรับแรปเปอร์สาว MILLI (มิลลิ) หรือ มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินไทยคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella ส่งความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก
MILLI เป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้ขึ้นแสดงบน Coachella Main Stage ในโชว์ HEAD IN THE CLOUDS FOREVER ของค่ายอเมริกันสายเลือดเอเชีย 88rising เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 เมษายน) พร้อมกับศิลปินเอเชียที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง CL, Jackson Wang, NIKI, BIBI, BOTY, Hikaru Utada และ Rich Brian
ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยร่วมงานกับ 88rising มาแล้วหลายครั้ง ทั้งในคอนเสิร์ตออนไลน์ DOUBLE HAPPINESS ในปี 2021 และ 2022 รวมถึงผลงาน Remix เพลง The Weekend ของ BIBI ที่ตอนนี้มียอดวิวบน YouTube กว่า 32 ล้านวิวแล้ว
แต่เวที Coachella ทั้งที MILLI ก็งัดไม้เด็ดแรกแนะนำประเทศไทยทั้ง 3 ฤดู ตั้งแต่ร้อน ร้อนมาก และร้อน…แล้วต่อด้วยไรม์ภาษาอีสานผสมใต้เล่าเรื่องชีวิตเด็กไทยๆ เพื่อตะโกนบอกทุกคนว่า “One thing!! I didn’t ride an elephant!” ฉันไม่ได้ขี่ช้างนะเว้ย! (รถไฟฟ้า BTS ก็มีจ้า) แถมยังกระซิบเบาๆ ด้วยว่า “เสาไฟกินรีต้นละแสนนะซิ รถไฟสมัย ร.5 ใช้มาแล้ว 120 ปี” แต่อย่างไรของวินเทจก็มีเสน่ห์ การแนะนำประเทศไทยของ MILLI จึงจบลงด้วยไรม์แสบๆ ที่ว่า “Country is good, people is good, our food is good and democracy is…”
เปิดตัวมาขนาดนี้แล้ว เพลงต่อไปก็คงหนีไม่พ้น Mirror Mirror เพลงสุดฮิตที่ติดหูประชากรโลก ส่งให้ทุกคนพร้อมโพสท่าแล้วสับแตกไปกับ MILLI ต่อด้วยเพลง สุดปัง นำพาภาษาลูสู่เวทีโลกให้คนทั้งสนาม You look at me now ไปเลย
และในเมื่อสปอยล์มาในตอนต้นแล้วว่าอาหารบ้านเรามันเด็ด MILLI จึงแต่งเพลงใหม่อวดความอร่อยของข้าวเหนียวมะม่วงของหวานแบบไทยๆ มาแนะนำให้ผู้ชมได้รู้จัก พร้อมหยิบข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นมากินโชว์บนเวที Coachella ไปเลย เรียกได้ว่านอกจากจะเอาผู้ชมอยู่หมัดแล้ว ยังทำให้ชาวไทยที่ดูอยู่หน้าจอหิวข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นมากันเลยทีเดียว
MILLI คือศิลปินที่เติบโตมาจากเวทีประกวดแรปเปอร์ในประเทศ The Rapper แต่กลับเติบโตจนขึ้นไปสู่ระดับโลกได้อย่างโดดเด่น ทั้งหมดนี้ก็เพราะความสามารถของ MILLI เอง แรงผลักดันจากค่ายอย่าง YUPP! และทีมงานคนไทยทุกคนที่ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาจนคนทั่วโลกชื่นชม
ซึ่งความสำเร็จของ MILLI ก็ชี้ให้เราเห็นว่าความสามารถของคนไทยไปได้ไกลแค่ไหน และมันคงไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก หากได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐ เหมือนที่ AUTTA เคยพูดไว้ว่า
“เราทำกันเองมันยังได้ขนาดนี้ ถ้ารัฐสนับสนุน เราจะไปได้ขนาดไหน”