มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีม ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ประกาศชัดต้องการสร้างทีมยุคใหม่ที่มี ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง เป็นศูนย์กลางของทีม และเชื่อมั่นว่าการคว้าแชมป์เอฟเอคัพจะช่วยทำให้ดาวยิงตัวเก่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับอาร์เซนอลออกไป
หลังเจอกับฤดูกาลที่ยากลำบาก แต่อาร์เซนอลสามารถปิดฉากได้อย่างสวยงาม ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 14 ของสโมสรมาครองได้ ด้วยการเฉือนเอาชนะเชลซี 2-1 ที่สนามเวมบลีย์ โดยฮีโร่ของทีมคือ โอบาเมยอง ที่ทำคนเดียว 2 ประตู นำชัยชนะมาสู่ชาวกันเนอร์ส
ด้าน อาร์เตตา กล่าวถึงเรื่องอนาคตของดาวยิงกัปตันทีมที่มีข่าวอาจจะตัดสินใจอำลาทีมโดยยังไม่ยอมต่อสัญญาใหม่ โดยสัญญาเดิมเหลือระยะเวลาแค่ปีเดียวนับจากนี้ โดยหวังว่าการคว้าแชมป์ครั้งนี้จะมีส่วนช่วยกล่อมให้กองหน้าวัย 31 ปีอยู่กับทีมต่อไป “ผมคิดว่าช่วงเวลาแบบนี้น่าจะช่วยให้เขาเชื่อได้ว่าเรากำลังมาถูกทาง และเขามีส่วนสำคัญต่อเรา เขาเป็นที่รักของทุกคน ผมคิดว่าเขาน่าจะอยู่ต่อ” ขณะที่ทางด้านโอบาเมยองเลี่ยงจะตอบคำถามเรื่องของอนาคต โดยบอกแค่ “ตอนนี้สนใจแค่ถ้วยรางวัลก่อน”
นายใหญ่ชาวสเปนยังกล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต “ผมภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของผู้เล่นชุดนี้และสโมสรแห่งนี้” ก่อนจะกล่าวถึงรูปเกมว่า “เราเริ่มต้นเกมอย่างลำบากหลังเสียประตูเร็ว แต่สิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับทีมและนักเตะชุดนี้ของผมคือ พวกเราจะไม่ยอมแพ้แน่ พวกเขาแสดงให้เห็นทันที โดยเป็น 30 นาทีที่ผมคิดว่าเราเล่นกันได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ผมมาคุมทีมเลย และหลังจากตีเสมอได้ เราก็เดินหน้าต่อด้วยความเชื่อมั่น
“นักเตะของเราพยายามอย่างหนักมาก และรางวัลนี้ก็มีค่ามากเป็นสองเท่าสำหรับเรา มันมีความสำคัญต่อสโมสรทุกอย่างในการได้กลับไปเล่นในฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง”
อาร์เตตายังได้กล่าวขอบคุณ เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยร่วมงานว่า “ผมคงต้องขอบคุณเป๊ป เพราะการสอนของเขาเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมเป็นผู้จัดการทีม”
ด้าน แฟรงก์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเชลซีผิดหวังกับความพ่ายแพ้ของทีม รวมถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่น่ากังขา โดยชี้ว่าจังหวะใบแดงของ มาเตโอ โควาซิช ไม่น่าจะโดนใบเหลืองที่ 2 แต่ยอมรับว่าทีมเล่นกันได้ไม่ดีพอที่จะคว้าชัยชนะในเกมนี้
“เราคุมเกมได้ก่อน แต่แล้วเราก็เล่นกันตกลง เล่นกันได้ช้า เราปล่อยให้เขากดดันเรา” แลมพาร์ดกล่าวถึงทีม ก่อนจะเผยว่า วิลเลียน ปีกจอมเก๋าเกิดบาดเจ็บก่อนเกม 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถลงช่วยทีมได้ในเกมนี้ นอกจากนี้ทีมยังเสียนักเตะสำคัญๆ ในทีมอย่าง เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, คริสเตียน พูลิซิช ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังโคนขาทั้งคู่ รวมถึง เปโดร โรดริเกซ ที่ไหล่หลุด
เชลซียังมีภารกิจในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกที่ 2 ในการไปเยือน บาเยิร์น มิวนิก รออยู่ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
