×

AI ไม่ได้มาแย่งงาน แต่มาเสริมแกร่งคนไทย! ไมโครซอฟต์ชี้ทางรอด SMEs และการเปลี่ยนผ่านอาชีพในยุค AI ครองเมือง

18.09.2025
  • LOADING...
microsoft-thailand-ai-frontier-firms

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เผยว่าปัจจุบันมีคนไทยเข้าถึงการใช้งาน AI แค่เพียง 1.5 ล้านคนถือว่ายังน้อยมาก ทำให้บริษัทเดินหน้าขับเคลื่อนภาคธุรกิจ การศึกษา และ SME ให้ยกระดับการใช้งาน AI ให้ก้าวสู่การเป็น ‘Frontier Firms’ ทัดเทียมกับต่างประเทศ พร้อมแนะรัฐบาลชุดใหม่เร่งอัดฉีดงบยกระดับ AI อย่างเร่งด่วน 

 

ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ในอดีตเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ แต่วันนี้ได้ปรับบทบาทสู่การเป็น ‘Intelligence Engine’ แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้องค์กรทุกขนาดสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้รอบด้าน

 

หนึ่งในความสำเร็จที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลง คือโครงการ THAI Academy ที่ได้พัฒนาทักษะด้าน AI ให้กับคนไทยไปแล้ว 1.577 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังช่วยเสริมขีดความสามารถให้องค์กรไทยนำพลังของ AI ไปต่อยอดสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมต่างๆ ควบคู่กับการวางรากฐานการใช้งาน AI ให้ทั้งภาครัฐและเอกชนไปพร้อมกัน

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

สำหรับทิศทางในปีงบประมาณ 2026 ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสนับสนุนองค์กรไทยสู่การเป็น Frontier Firms โดยใช้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ Elevate – Enable – Govern ที่ครอบคลุมการพัฒนาทักษะ AI การสนับสนุนการประยุกต์ใช้ และการกำกับดูแลให้ใช้อย่างปลอดภัยและโปร่งใส

 

ส่วนในด้านการศึกษา ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับครูและอาจารย์ทั่วประเทศเพื่อพัฒนาสื่อ AI เข้าสู่ห้องเรียน โดยตั้งเป้าให้นักเรียนไทยกว่า 1 แสนคน สามารถใช้ AI ในการเขียนโค้ดและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ได้ตั้งแต่ระดับโรงเรียนไปสู่มหาวิทยาลัย

 

ธนวัฒน์ ประเมินว่า ในอนาคตอันใกล้ จะได้เห็นการใช้งาน AI Agent เพิ่มขึ้น และ AI Agent จะกลายเป็นผู้ช่วยในการทำงานและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่สำคัญจะช่วยให้บุคลากรที่อาจเผชิญกับการเลิกจ้างงาน สามารถใช้ทักษะด้าน AI ทรานส์ฟอร์มตนเองไปสู่อาชีพใหม่ได้ดีกว่าผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึง AI

 

“AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลก หากองค์กรไม่สนับสนุนก็ยากที่จะก้าวสู่การเป็น Frontier Firms ได้ ยิ่งในวันที่ตลาดเต็มไปด้วยโอกาส ทุกคนจะไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็นผู้ใช้ AI แต่จะเป็นผู้สร้าง และนั่นคือเป้าหมายที่ไมโครซอฟท์อยากให้เป็น”

 

พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ นำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหลัก ซึ่งมองว่าจะช่วยยกระดับขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ที่วันนี้เผชิญกับปัญหาต้นทุนสูง ซึ่งการนำ AI มาใช้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดต้นทุน สร้างโอกาสและเปิดตลาดใหม่ๆ และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและป้องกันความเสี่ยงจากการถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยี

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน ในระยะสั้นอยากให้รัฐบาลสนับสนุนเงินลงทุนมาเสริมศักยภาพ AI  โดยได้ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นอีกประเทศที่ประสบความสำเร็จ จากการที่รัฐบาลสนับสนุนเงินลงทุนด้าน AI  50% และอีก 50% ให้ SME ออกค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ได้โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องต้นทุน

 

นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องสร้างการรับรู้ ให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ AI ได้มากขึ้น เพราะปัจจุบัน ช่องว่างระหว่างคนที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือในการทำงาน กับคนที่ไม่ใช้ ต่างกันมหาศาล คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน แต่ครั้งนี้ผลกระทบรุนแรงมากกว่า หากรัฐสามารถทำให้คนไทยเข้าถึง AI ได้มากขึ้น จะช่วยให้ประชาชนไม่กังวลกับการตกงาน เพราะยังสามารถสร้างอาชีพใหม่จากการใช้ AI ได้

 

ทั้งนี้ ธนวัฒน์ ยังได้อัปเดตความคืบหน้าของ ‘ดาต้าเซนเตอร์’ แม้ขณะนี้จะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล แต่แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ดาต้าเซนเตอร์ ยังคงดำเนินต่อไป โดยภาคเอกชนยังยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับภาครัฐ ทั้งการให้ไอเดียและการลงทุน เพื่อผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นหนึ่งใน Frontier Firms ของโลกในอนาคต

 

สุดท้ายแล้วแม้ไทยจะยังอยู่หลังประเทศอื่นในเส้นทางสู่การเป็น Frontier Firms แต่ผู้ประกอบการยังเชื่อว่ามีโอกาส หากสามารถเร่งปรับใช้ AI ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจในอีก 3–5 ปีข้างหน้า โดย AI จะไม่เพียงช่วยยกระดับประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่จะขับเคลื่อน GDP ภายในประเทศให้เติบโตขึ้นได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising