ถือเป็นกระแสในวงการแฟชั่นที่น่าจับตามองและน่าสนับสนุน เมื่อแบรนด์ใหญ่ๆ ต่างพากันตามเทรนด์ ‘Fur-Free’ หรือการเลิกใช้ขนสัตว์ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยล่าสุดแบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกันอย่าง Michael Kors ที่เพิ่งซื้อแบรนด์รองเท้า Jimmy Choo ไปเมื่อต้นปี ได้ตกลงใจประกาศอย่างเป็นทางการว่าไม่ขอใช้ขนสัตว์ในการผลิตสินค้า และเข้าร่วมขบวนการ Fur-Free ด้วยเช่นกัน
อาจเพราะมีกลุ่มผู้ต่อต้านการใช้ขนสัตว์ตั้งขบวนประท้วงประจำอยู่ที่ London Fashion Week เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมไปถึงรสนิยมของผู้บริโภคที่ไม่ได้นิยมขนสัตว์จริงอีกต่อไป ทำให้แบรนด์แฟชั่นใหญ่ๆ ต่างหันมาเปลี่ยนทิศทางการผลิตสินค้าของตนเอง โดยก่อนหน้านี้ Michael Kors แบรนด์ของดีไซเนอร์ปากจัดจากรายการ Project Runway ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้งจากกลุ่ม PETA นักเคลื่อนไหวที่รณรงค์ให้เลิกใช้ขนสัตว์จริง โดยกลุ่ม PETA ไปโผล่ทั้งรันเวย์ของ Michael Kors งานเปิดหน้าร้าน ไปจนถึงอีเวนต์อื่นๆ ที่แบรนด์จัด อย่างในเดือนกุมภาพันธ์ ได้มีกลุ่มผู้เรียกร้องไปประท้วงหน้าร้าน Michael Kors สาขาโซโห ในนิวยอร์กอีกด้วย
แต่ตอนนี้ เสียงเหล่านั้นได้ดังไปถึง John Idol ผู้เป็น CEO ของแบรนด์ รวมถึงตัว Michael Kors เอง ในที่สุดทางแบรนด์ก็ได้ออกมาประกาศว่าจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยเลือกใช้ขนสัตว์ปลอม นวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสร้างวัสดุที่ยังคงความหรูหราของแบรนด์ได้เช่นเดิม และคอลเล็กชันใหม่ Free-Fur ที่ไร้ขนสัตว์จริงจะพร้อมโชว์บนรันเวย์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่จะถึง
นอกจากนี้ แบรนด์รองเท้า Jimmy Choo ที่อยู่ในเครือเดียวกันก็ประกาศจะร่วมทำสิ่งดีๆ นี้ด้วย รวมทั้งแบรนด์ Stella McCartney ที่จะไม่ใช้ขนสัตว์ และหนังสัตว์ในทุกคอลเล็กชันนับต่อจากนี้
ที่ผ่านมาทาง PETA เปิดเผยว่าพวกเขาเคยติดต่อแบรนด์ไปเพื่อคุยเรื่องดังกล่าวเมื่อ 15 ปีที่แล้ว จนล่าสุดพวกเขาก็ตื่นเต้น และดีใจมากที่ทีมงาน Michael Kors ได้ติดต่อมาเพื่อนัดประชุมเรื่องการเลิกใช้ขนสัตว์อย่างเป็นทางการ โดยเป็นการเดินตามรอยแบรนด์ที่นำร่องไปล่วงหน้าอย่าง Gucci
ในปี 2018 ผู้บริโภคก็จะได้เห็นสินค้าในช็อปหรูที่ทำจากขนสัตว์จริงน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะร้านของแบรนด์ Michael Kors และ Jimmy Choo (ที่อาจจะยังคงมีสต็อกคงเหลือจากคอลเล็กชันก่อนๆ อยู่บ้าง) ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ช่วยตอกย้ำความก้าวหน้าแนวคิดการออกแบบของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่อไปในอนาคต