×

ก้าวไกลเปิดทางเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมชงชื่อแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย 27 ก.ค. นี้ รอหารือลดเพดาน ม.112 หรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
21.07.2023
  • LOADING...
พรรคก้าวไกล

วันนี้ (21 กรกฎาคม) ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังพรรคก้าวไกลหารือกับพรรคเพื่อไทยในการส่งต่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า จากนี้พรรคก้าวไกลจะส่งไม้ต่อให้กับพรรคอันดับที่ 2 นั่นคือพรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลกับอีก 8 พรรคร่วม โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้า วันที่ 27 กรกฎาคม  

 

ชัยธวัชยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประชาชนได้ลงมติตามเจตจำนงที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่ในช่วงเวลากว่า 2 เดือน ฝ่ายอนุรักษนิยมกลับไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเอามาตรา 112 มาเป็นข้ออ้างต่างๆ ด้วยเหตุนี้พรรคก้าวไกลจึงขอโทษพี่น้องประชาชน และเป้าหมายสูงสุดหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ใช่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่คือการหยุดสืบทอดอำนาจ 

 

ส่วนมาตรา 112 ที่เป็นเงื่อนไขและอุปสรรคในการโหวตนายกรัฐมนตรี จะทำให้ 8 พรรคไม่อาจร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย และหลังจากนี้คงเป็นหน้าที่บทบาทของพรรคเพื่อไทยในการพูดคุยจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการหารือเมื่อวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ต้องรอว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตคนไหนในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้า

 

ส่วนจะมีการถอยร่นเพดานมาตรา 112 หรือไม่นั้น ชัยธวัชกล่าวว่า ขอหารือกับพรรคเพื่อไทยก่อน ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจน ด้วยมารยาทที่พรรคก้าวไกลเปิดทางงให้พรรคเพื่อไทยเป็นการนำในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนี้จะเป็นบทบาทหลักของพรรคเพื่อไทย ส่วน MOU ที่เคยเซ็นไว้ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการต่อหรือสามารถฉีก MOU ได้แล้วต้องรอ อาจมีการเพิ่มพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 เข้ามาก็จะต้องมีการพูดคุย จะมีเงื่อนไขอะไร จะยอมรับได้หรือไม่ ต้องรอการหารือกับพรรคเพื่อไทย ภายใน 1-2 วันนี้รอการประสานจากพรรคเพื่อไทย ส่วนการนำพรรคลุงเข้ามาร่วมนั้นถือเป็นจุดยืนชัดเจนที่ไม่จำเป็นต้องหารือกับพรรคเพื่อไทย ขออย่าเพิ่งรีบสรุป มีข่าวออกมาจำนวนมากแต่ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่ในส่วนของหน้าที่การหาเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และยังไม่มีการหารือถึงตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงยังไม่มีการหารือกับ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย 

 

“สิ่งที่เราได้สัญญากับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เราคงไม่สามารถที่จะเสียสัจจะเรื่องนี้ได้” ชัยธวัชกล่าว

 

ชัยธวัชยืนยันด้วยว่า การประกาศให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในครั้งนี้ไม่ได้มองว่าเร็วหรือช้าและเป็นการถอยมากเกินไป เพราะเป็นไปตามที่พิธาได้แถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนการประชุมรัฐสภา 

 

“เจตจำนงของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้งมีความชัดเจน แม้วันนี้ไม่สามารถผลักดันพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ ภารกิจสำคัญที่เหลืออยู่คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ตามเจตจำนงของพี่น้องประชาชน ที่หวังจะเห็นการยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วรัฐบาลเดิม” ชัยธวัชกล่าว

 

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะเป็นใครก็ได้ ไม่ได้จำกัดเรื่องตัวบุคคล แต่ในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้าพรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเสนอแคนดิเดตที่ขึ้นอยู่กับมติของพรรคเพื่อไทย 

 

เมื่อถามว่าหากการเสนอแคนดิเดตพรรคเพื่อไทยแล้วไม่ผ่าน ถือว่าญัตตินั้นตกไปเลยใช่หรือไม่ ชัยธวัชระบุว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลคือไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับที่ 41 เรายังยืนยันว่ามติของรัฐสภารอบที่แล้วขัดต่อรัฐธรรมนูญ 

 

ชัยธวัชระบุอีกว่า ตอนนี้มีคดีหุ้น ITV และคดีล้มล้างการปกครองจากนโยบายมาตรา 112 ซึ่งทั้งสองคดีไม่มีการร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล แต่ประมาทไม่ได้

 

“เห็นได้ชัดเจนว่าหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้อยู่ในระบบนิติรัฐปกติ และองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญก็ถูกตั้งคำถามตลอดเวลาในแง่ของหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย โดยการมีบทบาทเป็นเครื่องไม้เครื่องมือทางการเมืองให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ดังนั้นพรรคก้าวไกลไม่ได้ประมาท เราติดตามอยู่” ชัยธวัชกล่าว

 

ชัยธวัชยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภาที่ผ่านมา เราเห็นว่าประธานสภาสามารถวินิจฉัยได้ เมื่อก่อนมีความเห็นแตกต่างกันเยอะ แต่ประธานสภาเห็นว่าควรให้สมาชิกได้อธิบายถกเถียงกันเต็มที่และมีมติร่วมกัน ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ก็หวังว่ารัฐสภาชุดนี้จะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก

 

เมื่อถามว่าเราถอยมา 2 รอบแล้ว ทั้งตำแหน่งประธานรัฐสภาและรอบนี้ก็ถอยตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้คำนวณสถานการณ์เลวร้ายที่สุดของพรรคไว้หรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า “ไม่ได้คำนวณอะไรทั้งนั้น เป้าหมายสำคัญที่ยึดไว้ตลอดหลังผลการเลือกตั้งออกมาคือ พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามเจตจำนงของมติมหาชนจริงๆ วันนี้ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่พิธาจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ประเด็นสำคัญที่สุดที่ต้องยึดไว้ให้ได้คือ ต้องผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่ยุติการสืบทอดอำนาจของผู้นำรัฐบาลเดิมให้ได้”

 

ชัยธวัชระบุอีกว่า “ถ้ามองย้อนกลับไป พรรคก้าวไกลจะตัดสินใจเหมือนเดิมที่เราจะตัดสินใจคืนความปกติให้กับประชาธิปไตยให้กับรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่นายกรัฐมนตรีจะมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นหัวหน้าพรรค เราไม่ยอมรับกติกาที่ออกแบบมาไว้เพื่อรัฐประหาร เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลมีแคนดิเดต 1 คน หรือมากกว่า 1 คน 

 

“แต่เป็นเพราะทุกองคาพยพได้สะท้อนชัดเจนแล้วว่ามีความต้องการอย่างเด่นชัด เปิดเผยว่าไม่อยากเห็นพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้วยความไม่ต้องการสูญเสียอำนาจทางการเมือง จะด้วยความไม่ต้องการสูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่เป็นความต้องการที่ไม่อยากจะเห็นนโยบายที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ประชาธิปไตยมากขึ้น”

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X