วันนี้ (1 กรกฎาคม) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีเปิดเทอมวันแรก ภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองเพิ่มสูงในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นการเปิดเรียนวันแรกหลังจากที่มีการปิดเทอมไปกว่า 5 เดือน และในช่วงเวลานี้จะเห็นข่าวผู้ปกครองต้องรับภาระค่าใช้จ่ายอุปกรณ์การเรียน อีกทั้งมีการสำรวจคิดเห็นและความกังวลต่อผู้ปกครองที่ระบุถึงความต้องการให้รัฐบาลช่วยเยียวยาและลดภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนก่อนเปิดเทอม ดังเช่นผลสำรวจจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา รายงานว่าในช่วงของการเปิดเทอมใหญ่ปี 2563 นี้จะเป็นช่วงลำบากของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียน อันเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในมุมด้านการใช้จ่ายเพื่อการศึกษา จากผลสำรวจพบว่าผู้ปกครองกว่า 88.9% มีความกังวลต่อสภาพคล่องทางการเงินที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อการศึกษาในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2563 จากหลายสาเหตุ เช่น เงินออมไม่เพียงพอ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่กิจการต้องปิดให้บริการชั่วคราว มีผลต่อรายได้ และผู้ปกครองบางรายถูกเลิกจ้างชั่วคราว
รวมถึงกรณีที่มีแม่ท่านหนึ่งต้องขโมยชุดนักเรียนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเพราะไม่มีเงิน ตกงานในช่วงโควิด-19 ระบาด ตนในฐานะผู้แทนราษฎรจึงอยากเรียกร้องกระทรวงศึกษาธิการออกประกาศให้โรงเรียนทั่วประเทศเพิ่มความยืดหยุ่นต่อการแต่งกายของนักเรียนในปีการศึกษานี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาดที่ส่งผลให้มีผู้ปกครองจำนวนมากประสบปัญหาขาดรายได้ ตกงาน
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ โรงเรียนต้องช่วยลดภาระผู้ปกครองโดยการยืดหยุ่นในส่วนนี้ ดังเช่นใครยังไม่มีความพร้อมที่จะแต่งชุดนักเรียนมาโรงเรียนก็สามารถใส่ชุดไปรเวทมาได้ รวมถึงสื่อสารทำความเข้าใจกับนักเรียนให้รับรู้กันว่าการแต่งการชุดไปรเวทในช่วงเวลานี้ไม่ใช่ความผิดปกติ แต่สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องกดดันผู้ปกครอง และหากกระทรวงศึกษาธิการมีประกาศไปยังโรงเรียนต่างๆ เพื่อยืดหยุ่นในเรื่องของเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การเรียนได้จะเป็นการคลายความกังวลและลดความกดดันแก่ผู้ปกครองได้ไม่น้อย เมื่อสามารถลดความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้ ผู้ปกครองและโรงเรียนจะได้มีสมาธิในการมุ่งเน้นแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่า นั่นคือการส่งเสริมการเรียนรู้และเพิ่มทักษะแก่เด็ก เพราะในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาเป็นการเปิดเทอมที่ยาวกว่าปกติ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ แม้จะมีการเรียนออนไลน์ก็ตาม แน่นอนว่าความพร้อมรอบด้านไม่เหมือนในห้องเรียน ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการในฐานะผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงควรมุ่งเน้นในการจัดการปัญหาที่แท้จริง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
