วันนี้ (25 พฤษภาคม) ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย แถลงข่าวถึงกรณีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเซ็น MOU ได้รับผลตอบรับในทางบวกทั้งประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยอมรับในหลักการมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีการคุยกับ ส.ว. เป็นรายบุคคล เชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอในการโหวตนายกรัฐมนตรี ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ต้องไปคุย ซึ่งหน่วยงานแรกก็เป็นไปด้วยดี ยืนยันว่านโยบายพรรคจะสร้างการเติบโตเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ
ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ทางพรรคยืนยันว่าตำแหน่งนี้มีความจำเป็นที่พรรคก้าวไกลจะต้องได้ตำแหน่งนี้ เพื่อคุมประมุขทางนิติบัญญัติและผลักดันวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ราบรื่น เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งทุกพรรคร่วมเห็นพ้องกัน รวมถึงมีรัฐสภาที่โปร่งใสและมีส่วนร่วมของประชาชน และจัดตั้งสภาเยาวชนเพื่อรับฟังเสียงเยาวชนในการแสดงความคิดเห็น
ศิริกัญญากล่าวอีกว่า จำนวน ส.ส. ที่ลดลงจากการประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวานนี้ (24 พฤษภาคม) เราเห็นข้อผิดพลาดตรงนี้อยู่แล้ว จาก 113 ที่นั่ง เหลือ 112 ที่นั่ง ทำให้รวม ส.ส. เหลือ 151 ที่นั่ง จำนวน ส.ส. ลดลงไม่ได้เป็นปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วม ต่อจากนี้จะเป็นการพูดคุยเรื่องกระทรวงและหารือพูดคุยที่เห็นต่างกรณีที่มีการพูดคุยกันเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ 450 บาท พรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้อง
ส่วนเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยก็ต้องหารือพูดคุยกัน หากเห็นพ้องก็จะเสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภา ส่วนเรื่องกัญชาต้องกลับไปเป็นสารเสพติด นโยบายต่อจากนี้ไม่ได้เพียงคุ้มครองประชาชน แต่จะคุ้มครองผู้ประกอบการ ผู้ปลูกที่ทำถูกต้องตามกฎหมายในการควบคุมก็จะคุ้มครองด้วย ไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนทำถูกกฎหมายที่จดทะเบียนถูกต้อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องตำแหน่งประธานสภามีรายชื่อ ณัฐวุฒิ บัวประทุม หลายสื่อเก็งกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังไม่มีการตกลง ซึ่งมีกระแสว่าอายุทางการเมืองคนที่มาดำรงตำแหน่งน้อย ศิริกัญญากล่าวว่า ในอดีตมีประธานสภาอายุน้อย แต่ไม่ใช่ประเด็น ควรให้โอกาส ไม่ควรยึดติดเรื่องอาวุโส พรรคก้าวไกลมี ส.ส. หลายท่าน ที่มีความเหมาะสม ส่วนตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีจะเป็นส่วนผสมกัน ทั้งคนที่เป็น ส.ส. และคนนอก ยืนยันว่าก้าวไกลในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจัดสรรปันส่วนอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยบอกมีแทงข้างหลัง ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ไม่เกิดขึ้นแน่นอนจากฝั่งพรรคก้าวไกล เพราะการเซ็น MOU อยู่ ข้อตกลงร่วมกันแล้วในการจัดตั้ง และความกังวลเรื่องพรรคเพื่อไทยถอนตัว พร้อมมองว่าไม่มีความเชื่อใดที่พรรคเพื่อไทยถอนตัว จากที่คุยกันหลายครั้งมั่นใจพรรคเพื่อไทยไม่ถอนตัว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องดราม่าระหว่าง น.ต. ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ศิริกัญญากล่าวว่า ตนมองว่าทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ เรื่องข้อพิพาทจะคลี่คลายได้ ไม่เป็นปัญหาในการร่วมงานในอนาคต และทั้งคู่เคลียร์ใจขอโทษกันแล้ว
“การเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล คาดว่าน่าจะคุยอย่างรวดเร็ว ไม่เกิน 2 สัปดาห์จบ และหาก กกต. รับรองไว ก็จะทำให้ทุกอย่างไวมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนนโยบายการขึ้นค่าแรง 450 บาท มีข่าวลือโรงงานปิดตัว ยืนยันมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเหมาะสม หลายบริษัทอาจจะกังวล พร้อมรับฟังปัญหา หากจัดตั้งรัฐบาลโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นภายใน 100 วัน หลังจัดตั้งรัฐบาลจะเดินหน้านโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท” ศิริกัญญากล่าว
ศิริกัญญากล่าวต่อไปว่า เรื่องเสียง ส.ว. 16-20 คน จากตัวเลขที่พูดคุยเป็นไปในทางบวก และจะเร่งเจรจามากขึ้น ซึ่งการชุมนุมเคลื่อนไหวกดดัน ส.ว. มองว่าเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพ ไม่สามารถไปจำกัดหรือสร้างกลุ่มผู้ชุมนุมได้ แต่คิดว่าการโหวตจาก ส.ว. อยู่ที่ดุลยพินิจในจุดยืนนโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งมี ส.ว. พร้อมโหวตให้ แต่ไม่แสดงตัวตนในตอนนี้ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ ซึ่งตอนนี้มีเพียง ส.ว. ไม่กี่คนที่ปรากฏตามหน้าสื่อเคลื่อนไหวเท่านั้น
