วานนี้ (29 มิถุนายน) กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโกเปิดเผยรายงานที่น่าตกใจว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนอย่างน้อย 100 คนที่เสียชีวิตจากสาเหตุที่เชื่อมโยงกับสภาพอากาศร้อนจัด หลังอุณหภูมิในหลายพื้นที่ทั่วประเทศทะยานใกล้แตะเส้น 50 องศาเซลเซียส
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า คลื่นความร้อนรุนแรงที่กินเวลานาน 3 สัปดาห์ในเดือนมิถุนายนนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคพลังงานของเม็กซิโกอย่างมาก จนทำให้ทางการต้องประกาศให้นักเรียนหยุดเรียนในบางพื้นที่ ขณะที่ประชาชนหลายคนต้องทนอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด หรือคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด อยู่ช่วงวันที่ 18-24 มิถุนายนที่ผ่านมา และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือหากเราย้อนไปดูสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 จะเห็นว่ามีผู้เสียชีวิตจากภัยความร้อนแค่ 1 รายเท่านั้น
สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตเกือบทั้งหมดนั้นเกิดจากภาวะฮีตสโตรก และส่วนหนึ่งมาจากภาวะขาดน้ำ โดยยอดผู้เสียชีวิต 64% มาจากรัฐนวยโวเลออง (Nuevo Leon) ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา และอีกเกือบ 40% มาจากรัฐตาเมาลิปัส (Tamaulipas) และรัฐเบรากรุซ (Veracruz)
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันมานี้อุณหภูมิได้ปรับตัวลงแล้ว เนื่องจากเม็กซิโกได้เข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งช่วยลดความร้อนแรงของสภาพอากาศลงได้บ้าง แต่ถึงเช่นนั้นเมืองทางตอนเหนือหลายแห่งก็ยังคงมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดอยู่ ยกตัวอย่างเช่นเมืองอะคอนชี (Aconchi) ของรัฐโซโนรา (Sonora) ยังคงมีอุณหภูมิสูงถึง 49 องศาเซลเซียสเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28 มิถุนายน)
ภาพ: Carlos Santiago / Eyepix Group / Future Publishing via Getty Images
อ้างอิง: